2 ผู้มากบารมีโคจรพบกัน ตอกย้ำดุลอำนาจเปลี่ยน สัจธรรมการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

2 ผู้มากบารมีโคจรพบกัน ตอกย้ำดุลอำนาจเปลี่ยน สัจธรรมการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

TOP News ปิดตำนานวลีการเมืองอมตะ “มันจบแล้วครับนาย” !  ภายหลัง “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรฟุตบอลปราสาทสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองบุรีรัมย์อิทธิพลทางการเมืองแผ่กว้างในภาคอีสาน เพราะมี สส.กุมฐานเสียงในหลายจังหวัดอีสานใต้ นักการเมืองสมองเพชรแห่งพรรคภูมิใจไทย  ดอดพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มากบารมีแห่งพรรคเพื่อไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา จากเดิม “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ปฏิเสธเสียงแข็ง ไร้สาระไปเอาข่าวมาจากไหน? แต่อีกวันถัดมายอมรับโดยดุษฏีว่า “เนวิน ชิดชอบ” ไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” จริง! แต่อุบไต๋ไม่เปิดบทสนทนาทางการเมืองว่า 2 ผู้ยิ่งใหญ่ในยุทธภพการเมืองไทยพูดคุยหรือเปิดดีลการเมืองอะไรต่อกัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สาเหตุที่สื่อมวลชนและเซียนการเมืองสนใจการโคจรมาพบกันอีกครั้งระหว่าง “เนวิน ชิดชอบ” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เพราะ2ผู้ยิ่งใหญ่เคยบาดหมางกันมาก่อน จากวลีอมตะ “มันจบแล้วครับนาย”  จุดแตกหักระหว่าง “เนวิน ชิดชอบ” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่มาวันนี้ “เนวิน ชิดชอบ” มุดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าพบ “ทักษิณ” เพื่อเปิดดีลการเมือง

ขณะที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ออกตัวแทน ว่าทั้ง 2 ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ถึงกับระบุว่า ผมอยู่มาตั้ง 10 ปี ไม่เคยได้ยินคำนี้ ใครกล้าพูดหรือ “มันจบแล้วครับนาย” แต่ตำนานก็คือตำนานปฏิเสธไม่ได้ เพราะมีทั้ง คลิปหรือภาพหลักฐานจารึกไว้ เพราะหากย้อนอดีตอันหวานชื่นจนถึงช่วงอดีตอันขมขืน ระหว่าง “เนวิน” กับ “ทักษิณ”

เริ่มตั้งแต่ปี 2548 “เนวิน ชิดชอบ” ย้ายจากพรรคชาติไทยมาซบ พรรคไทยรักไทย ร่วมกันปลุกปั้นให้ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี เรืองอำนาจจนถึงขีดสุด จนกระทั่งเผชิญมรสุมทางการเมือง ม็อบคนเสื้อเหลืองนำโดย “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณ ฐานบริหารไม่โปร่งใสเกิดการทุจริตเชิงนโยบาย  ขณะที่ “เนวิน ชิดชอบ” อาสานำมวลชนคนเสื้อแดงออกมาปกป้องรัฐบาลทักษิณ จนกระทั่ง “พรรคไทยรักไทย” ถูกยุบพรรค และแปรสภาพเป็น “พรรคพลังประชาชน” เมื่อปี 2551 แต่ไม่รอดถูกยุบพรรคซ้ำอีกครั้ง ในช่วงนั้น “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” สามี “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย “ทักษิณ ชินวัตร”  นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดสุญญาณกาศทางการเมือง จึงต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ขณะนั้นกลุ่มสส.ของ  “เนวิน ชิดชอบ”  เตรียมตีจาก “นายใหญ่เพื่อไทย” กำลังก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา ประจวบเหมาะกับ “พรรคประชาธิปัตย์”ซึ่งมีเสียงสส.ในสภามากเป็น อันดับ 2  นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นผู้จัดการรัฐบาล  ไปเจรจากับ กลุ่ม สส.ของ “เนวิน ชิดชอบ” จัดตั้งรัฐบาล  สนับสนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี แถลงจับมือจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ เกิดภาพจับมือสวมกอดกันระหว่าง “เนวิน ชิดชอบ” และ “อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ”  ตำนานงูเห่าภาค 2 ต้นตอวลีแห่งตำนานการเมือง “มันจบแล้วครับนาย” ซึ่งเป็นคำพูดของ “เนวิน ชิดชอบ” ตอบกลับสายโทรศัพท์ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่โทรมาตำหนิว่าไม่สำนึกบุญคุณ

แต่หากเช็กดุลการเมืองปัจจุบัน ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคภูมิใจไทย” ต้องยอมรับว่า “พรรคภูมิใจไทย”  มีอำนาจต่อรองสูงมาก และ เป็นตัวแปรทางการเมืองสำคัญ หากเกิดสถานการณ์พลิกผัน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี  อาจต้องประสบอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะ “พรรคภูมิใจไทย” มีเสียงค้ำยันรัฐบาลเป็นอันดับ 2  แม้ว่า สภาล่าง พรรคเพื่อไทย มี สส.มากกว่า เป็นอันดับ 1 แต่การเมืองสภาสูง “พรรคภูมิใจไทย” มีอำนาจต่อรองสูงกว่า เป็นที่รู้กันดีในสนามการเมือง “สว.สายสีน้ำเงิน” กุมสภาสูงเบ็ดเสร็จสะท้อนให้เห็นจากประเด็นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราและลดมาตรฐานจริยธรรม “วุฒิสภา”  มีความเห็นสอดคล้องไปกับ “พรรคภูมิใจไทย”

เช่นเดียวกับ จุดยืนทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 , ไม่แก้ไขรายมาตรา  หากแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ  ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ  เพราะนักการเมืองเป็นผู้เล่นมีส่วนได้ส่วนเสียไม่ควรให้นักการเมืองแก้รัฐธรรมนูญเอง จึงเป็นที่มา “พรรคภูมิใจไทย” ไม่เห็นด้วยแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา

ยิ่งได้เห็น งานวัดเกิดของ “เนวิน ชิดชอบ”  ให้หมอประกำช้างผูกข้อมือให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี ในทางการเมืองอาจมองได้ว่า เป็นการส่งสัญญาณถึง “นายใหญ่เพื่อไทย” ว่า นี่คือ “นายกรัฐมนตรีคนถัดไป”
ทั้งนี้ยิ่งบทบาทในการเป็นหัวหอกฝ่ายอนุรักษ์นิยม กองเชียร์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่างเทคะแนนให้ “พรรคภูมิใจไทย” มาเป็นที่ 1 เหนือ พรรคเพื่อไทยของ “ทักษิณ ชินวัตร” จากจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนหลายเรื่อง อาทิ  ประกาศจุดยืนต่อต้านการแก้ไขมาตรา 112 , การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ห้ามเตะหมวด 1 และหมวด 2 เด็ดขาด  ประกาศชัดการแก้ไขประมวลจริยธรรมนักการเมือง ไม่พร้อมให้ตรวจสอบ ก็ไม่ควรเข้ามาเล่นการเมือง และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเลื่อนออกไปก่อน แต่ควร มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหาก “นายใหญ่เพื่อไทย” จะเทียบเชิญ “เนวิน ชิดชอบ” เข้าพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จากอดีตจนปัจจุบันดุลการเมืองเปลี่ยนไป และ สัจจธรรมการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ยิ่งขณะนี้ “พรรคภูมิใจไทย” เป็นเสาค้ำยันรัฐบาลนั้นเอง !

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘ภูมิธรรม’ สั่งทุกเหล่าทัพ ระดมสรรพกำลัง พร้อมยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วมใต้
“จักรภพ” แจงวาทะร้อน ยันไม่ได้หมายถึงไม่ใส่ใจประชาชน หลัง “ไอซ์ รักชนก” โผล่คอมเมนต์เดือด
ทนายเมีย-ลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดร้องไห้กลางศาล ขอเมตตาปล่อยตัว
ศาลสั่งจำคุก 8 เดือน "ออยศรีและผองเผือก" หมิ่นประมาท "ทนายตั้ม"
สุดเศร้า "ผู้พิการทางสมอง" ถูกกระแสน้ำท่วมใต้ซัดจมหาย พบร่างไหลติดกิ่งไม้
"จิรายุ" เผยรบ.เตรียมโอนซ้ำ "เงินหมื่น" รอบสุดท้าย เตือนผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้รับ เร่งแก้ไขบัญชี
ราชทัณฑ์หาม “สามารถ” ส่ง รพ.หลังอดข้าวหลายมื้อ
"พิชัย" ถกสหพันธ์ขนส่งฯ เร่งตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ แก้ปัญหาขนส่งศูนย์เหรียญ
ไทยดูไว้! “คาเรนนี” โคตรแสบ! ลวง “ทัพพม่า” เข้าทุ่งสังหาร-กดบึ้ม 40 ศพ
“พิพัฒน์” มุ่งสร้างสวัสดิการให้เงิน ทดแทนการขาดรายได้ ชวนแรงงานอิสระ สมัครผู้ประกันตน ม.40

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น