นายกโตนด อำเภอโนนสูง ยืนยันไม่ใช้ผู้มีอิทธิพล สั่งให้ไปทำร้ายใคร พร้อมดำเนินคดีหากยังมีการว่าร้าย

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 จากกรณี นางสุนิสา ยังสันเทียะ ภรรยา อายุ 39 ปี ได้เข้ามาขอความเป็นธรรมและเร่งรัดคดี กับ พ.ต.ท.ตฤณ บุญสันเทียะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.โนนสูง หลังนายประทีป แก่นโพธิ์ อายุ 42 ปี สามี และหลาน ถูกคนร้ายปล้นชิงทรัพย์ มอเตอร์ไซค์ 2 คันและเงิน 3 หมื่นบาท ก่อนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้อื่นสาหัส ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น อีกทั้งต้องการที่จะเปลี่ยนพนักงานสอบสวน เพราะไม่ให้ความเป็นธรรมในรูปคดี และไม่มีความเชื่อมั่น หลังจากคดีไม่มีความคืบหน้ากว่า 10 เดือน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 22.00 น เหตุเกิดบริเวณเหมืองน้ำ บ้านขาม หมู่ 9 ตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสุนิสา เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา สามีของตนคือนายประทีป อายุ 42 ปี พร้อมด้วยนายมนตรี เป็นหลาน อายุ 23 ปี และนายประวิทย์ อายุ 35 ปีช่างซ่อมรถ ได้ซ่อมรถจักรยานยนต์เสร็จก็จะพากันกลับบ้าน และเดินทางมาทางลัด เพื่อจะได้หาปลาในระหว่างทางก่อนกลับบ้าน ด้วยมอเตอร์ไซค์ขับตามกันมาทั้งหมด 3 คัน มีไฟส่องปลา และมีฉมวกแทงปลาทั้ง 3 คน ก่อนจะขับจักรยานยนต์ผ่านกระท่อม ที่มีชายฉกรรจ์อยู่ทั้งหมด 5 คน อายุ 50 ปีขึ้นไป และมีการเรียกให้จอด แต่ทางสามีพร้อมกับพวกไม่ยอมจอดเพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายจึงขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไป ในระหว่างนั้นทางกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คนได้ขับมอเตอร์ไซค์ตามกันมา ก่อนที่จะใช้ไม้หน้าสามและอาวุธมีด รุมทำร้าย ทำให้ทั้งหมดต่างพยายามที่จะวิ่งหนีตาย และได้รับบาดเจ็บกันทุกคนโดยหลานได้รับบาดเจ็บมากที่สุด นอกจากนี้เงินของหลานที่นำติดตัวมาด้วย 3 หมื่นบาทที่เตรียมไว้จะจ่ายเป็นค่ารถกระบะไฟแนนซ์เอาไว้ ก็ถูกชิงเอาไป และมอเตอร์ไซค์อีก 2 คัน หลังจาหนี้ได้จึงได้โทรตาม รุ่นน้องให้มาช่วยตามหามอเตอร์ไซค์เนื่องจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เอาไป หลังจากนั้นรุ่นน้องได้ไปตามเพื่อนมาอีกรวมทั้งหมด 5 คน  ก่อนจะไปเจอกลุ่มชายฉกรรจ์ที่นั่งดื่มเหล้ากันในกระท่อม และมีการเข้าตะลุมบอลกันเกิดขึ้น จะมีผู้บาดเจ็บ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา กลุ่มของนายประทีป ว่ามีการทำร้ายร่างกายผู้สาหัส และมีการแจ้งข้อกล่าวหากับสามีของตนด้วย ทั้งที่สามีไม่ได้มีการสั่งการให้รุ่นน้องไปทำร้ายคู่กรณีแต่อย่างใด แต่รุ่นน้องไปทำกันเอง จึงทำให้โดนร่างแหไปด้วย อย่างไรก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน ที่เป็นต้นเรื่องของเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีการรุมทำร้าย สามีและพวกของตน เวลาผ่านไปนานเกือบ 10 เดือน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แจ้งแต่ฝ่ายตนเองเพียงฝ่ายเดียว

นายฤติพงค์ ถวิลสุวรรณวัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา  เผยว่า ตนทราบข่าวว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาก่อเหตุทะเลาะวิวาทในพื้นที่ตนเอง ก่อนคู่กรณีจะมีการ กล่าวอ้างว่าตนเองรู้เรื่องราวทุกเรื่อง แต่หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว โดยทราบเรื่องจากชาวบ้านที่ได้แจ้งเรื่องมาก ในส่วนคลิปที่เกิดเหตุก็เป็นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เป็นคนถ่าย ก่อนที่จะมีการกระจายกันต่อในโซเชียลจนกระทั่งมาถึงด้วยตนเอง ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะตนเป็นผู้นำในพื้นที่ ล่าสุดเจ้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำว่าได้รู้เห็นเป็นใจเกี่ยวกับการก่อเหตุทำร้ายกันหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่มีตรวจเกี่ยวข้อง ถอนกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ถูกทำร้ายอาการสาหัสนั้นก็รู้จัก เป็นสมาชิกอบตโตนดเก่า ถือว่าเป็นญาติพี่น้องในเขตพื้นที่ส่วนไอ้กลุ่มที่ทำร้ายอีกกลุ่มตนไม่รู้จัก ถือว่าเป็นเด็กต่างถิ่น ถึงแม้ว่าตัวเองจะถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะตัวเองเป็นคนที่มีจิตอาสานี้ทุกด้าน ให้สอบถามชาวบ้านได้เลยว่าตนเองเป็นคนนิสัยยังไง หากคู่กรณียังมีการไปพูดให้ตนเองเสียหายก็จะต้องมีการดำเนินคดี

นายพนอ ฤทธิ์ด่านกลาง อายุ 28 ปี ชาวบ้านในพื้นที่โตนด เปิดเผยว่า ท่านนายกเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นนักพัฒนาในหมู่บ้าน มีจิตใจอาสาช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำ และไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ยืนยันว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้นท่านนายกให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว  และตัวเองก็มีความเชื่อมั่นในความยุติธรรม

ด้าน ร.ต.อ.อำนาจ ปล้องงูเหลือม รอง สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่มีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คน ที่เป็นต้นเรื่องของการทำร้ายกลุ่มนายประทีป เพราะว่าคู่กรณี 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย จึงไม่สามารถที่จะสอบปากคำได้ทั้งหมด จึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ว่ามีการปล้นทรัพย์เงิน 3 หมื่นบาท และรถมอเตอร์ไซค์อีก 2 คัน จึงต้องมีการสอบพยานแวดล้อมทั้งหมด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการปล้นชิงทรัพย์ แต่หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวกลุ่มนายประทีป ได้มีการนำพวกมารุมทำร้าย คู่กรณี จนมีอาการสาหัส 3 คน จากทั้งหมด 5 คน และได้มีการเยียวยาให้กับคู่กรณีไปเป็นจำนวนเงิน 310,000 บาท โดยทั้ง 5 คนให้การว่านายประทีปเป็นคนสั่งการให้มาทำร้ายร่างกาย แต่มีนายประทีปปฏิเสธอยู่คนเดียวว่าไม่ได้สั่งการ ตำรวจจึงต้องออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนจะให้การยังไงหรือปฏิเสธ ก็สามารถที่จะทำได้ตามพยานหลักฐาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น