ตร.ทลายเครือข่ายต่างด้าวร่วมกับคนไทย แอบขาย”เซ็กซ์ทอย” ออนไลน์ เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท

ตร.ทลายเครือข่ายต่างด้าวร่วมกับคนไทย แอบขาย"เซ็กซ์ทอย" ออนไลน์ เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท

วันนี้ (11 ต.ค. 67) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. นำกำลังเข้ากวาดล้างจับกุมนางสาว สุชาดา แซ่หลู่ อายุ 26 ปี นายอานนท์ แซ่โข่ง อายุ 25 ปี นายมงคลวิทูร อินทาปัจ อายุ 40 ปี นายชัยวัฒน์ เฉลิมสินธ์ อายุ 31 ปี นายสุโข อมรวุฒิพงศ์ อายุ 30 ปี นายเอกราช สายวัน อายุ 29 ปี นายวุฒิพงศ์ ปลุกใจ อายุ 25 ปี นางดอกแก้ว ด้วงอุดม อายุ 32 ปี ชาว สปป.ลาว และนายนิสาห์ ด้วงอุดม อายุ 30 ปี ชาว สปป.ลาว ผู้ต้องหาลักลอบขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยทางสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมของกลางอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย 2,580 ชิ้น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้กระทำความผิดอีก 66 เครื่อง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

พลตำรวจตรี ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจ ปคม. ได้จับกุมผู้ต้องหาล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ่ายคลิปทำคอนเทนต์ลักษณะลามกอนาจารโดยมีอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยเพื่อดึงดูดความสนใจ ก่อนนำคลิปไปขายทาง Telegram กลุ่ม PimThaidai และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย โดยตั้งกลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งรวมถึงคลิปลามกเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายคลิป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 9 หมื่นราย และมีคนต่างด้าวร่วมกระทำความผิดตามกฎหมายด้วย นอกจากนี้ กลุ่มลับดังกล่าวยังแอบแฝงลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และยาปลุกเซ็กซ์ จึงสั่งการให้ตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 จุด นครปฐม 1 จุด และชลบุรี 1 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าว

 

 

 

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ลักลอบเปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และกลุ่มลับใน Telegram เพื่อโฆษณาขายสินค้าเซ็กซ์ทอยมาแล้วกว่า 2 ปี มีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนบาท และมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหา “ผลิตสื่อลามกเพื่อความประสงค์แห่งการค้า แจกจ่าย มีไว้ นำเข้า ส่งออก / ประกอบการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามก โฆษณาหรือไขข่าวเพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามก ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น นำข้อมูลอันลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีในอนุญาตทำงาน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ดำเนินคดีต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

'ธนินท์' นำผู้บริหาร-พนักงานทุกกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีทั่วโลก ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหว ด้านซีอีโอศุภชัย เดินหน้าตรวจสอบความปลอดภัย สร้างความมั่นใจ ส่ง 'ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี' ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งไทย-เมียนมาต่อเนื่อง
สหรัฐฯช่วยเมียนมา 67 ล้านแต่ไร้ทีมกู้ภัย
“จุลพันธ์” เผยกรมบัญชีกลาง เพิ่มงบให้ปภ. ช่วยเหตุแผ่นดินไหว 200 ล้านบาท ขอเทียบเคียงเยียวยาเหตุสึนามิ-น้ำท่วม
"เลขาธิการกปส." ร่วมให้กำลังใจ 2 ครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมจ่ายเงินเยียวยา 2.7 ล้าน
“อนุทิน” รับลูกนายกฯ สั่งปภ.ทำแผนเผชิญภัยพิบัติทุกรูปแบบ ในกรอบเวลา 30 วัน
เครือซีพี พร้อมกลับเข้าสู่โหมดการทำงานปกติ หลังอาคารสำนักงานผ่านการตรวจสอบโดยวิศวกรอิสระ ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลกระทบจากแผ่นดินไหว
เคียงข้างทุกวิกฤต! ซีพีเอฟ ร่วมร้อยเรียงความดี ส่งความห่วงใยผ่านอาหาร-สิ่งของจำเป็น หนุนภารกิจค้นหาต่อเนื่อง
"อธิบดี DSI" ถกด่วน เร่งสอบปม "ตึก สตง." ถล่ม หากพบความผิด รับเป็นคดีพิเศษทันที
"สรรเพชญ" ร่วมทีมแพทย์ วิศวกร ตรวจโครงสร้างอาคาร เพิ่มมั่นใจ รพ.สงขลา ปลอดภัย
โปรดแต่งตั้ง "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดญาณเวศกวัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น