ประชุมสุดยอดอาเซียนระอุ- ปธน.ฟิลิปปินส์กดดันผู้นำอาเซียนและจีน อย่าทำเมินปัญหาทะเลจีนใต้ ให้เร่งเจรจาโดยด่วน พร้อมกล่าวหาจีนคุกคามและข่มขู่
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ได้หยิบยกประเด็น เกี่ยวกับการปะทะกันล่าสุดในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์มาหารือ กับ นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียงของจีน ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อวานนี้
หลี่ได้ประชุมกับผู้นำอาเซียน ที่การประชุมในประเทศลาว หลังจากหัวข้อการประชุมหลัก นั่นคือ การหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ซึ่งใช้เวลาทั้งวันได้จบลง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเรือของจีนและฟิลิปปินส์ในน่านน้ำรอบๆ แนวปะการังและเกาะที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ นักการทูตคนหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มาร์กอสได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาในการประชุมกับหลี่ โดยโต้แย้งว่า “คุณไม่สามารถแยกความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ออกจากความมั่นคงทางการเมืองได้”
การประชุมสุดยอดระหว่างอาเซียนกับหลี่ เน้นไปที่การค้าเป็นส่วนใหญ่ และจัดขึ้นในวันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีจีน พบกับแอนโธนี อัลบาเนซี นายกฯออสเตรเลีย ซึ่งกล่าวว่า จีนได้ตกลงยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร อนุญาตให้ออสเตรเลียส่งออกล็อปสเตอร์ไปจีนได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มาร์กอสกล่าวในการประชุมครั้งนี้ว่า อาเซียนและจีนไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในด้านเศรษฐกิจได้ ในขณะที่ความตึงเครียดในด้านการเมืองกลับมีมากขึ้น มาร์กอสยังกล่าวอีกว่า อาเซียน-จีนควรเร่งเจรจาเกี่ยวกับกฏระเบียบในทะเลจีนใต้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สถานการณ์โดยรวมในทะเลจีนใต้ยังคงตึงเครียดและไม่เปลี่ยนแปลง เรายังคงถูกคุกคามและข่มขู่ต่อไป
เมื่อวันพุธ ร่างคำแถลง บรรดาผู้นำอาเซียนย้ำถึงข้อเรียกร้องที่ยึดมั่นมายาวนาน ให้มีความยับยั้งชั่งใจและเคารพกฎหมายระหว่างประเทศในทะเลจีนใต้ เนื่องจากความถี่และความรุนแรงของการปะทะกันที่เพิ่มขึ้นในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท กำลังทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้น
ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวกับผู้นำคนอื่นๆ ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันพุธว่า ประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น และจำเป็นต้องมีการจัดการเร่งด่วน โดยมีความเสี่ยงอย่างแท้จริง ที่เหตุการณ์จะลุกลามไปสู่ความขัดแย้ง
จีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งยวด โดยมีการขนส่งสินค้ามูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี แต่สมาชิกอาเซียนหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และบรูไน ต่างก็อ้างสิทธิ์เหนือเกาะและแนวปะการังต่างๆ เช่นกัน
การพบกับหลี่เกิดขึ้นหลังจากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงหลายครั้ง โดยเฉพาะกับฟิลิปปินส์บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ หน่วยยามฝั่งของจีนและเรือลำอื่นๆ ได้พุ่งชน ฉีดน้ำ และกีดขวางเรือของทางการฟิลิปปินส์ และเมื่อต้นเดือนนี้ เวียดนามได้ออกคำประณามอย่างโกรธเคือง หลังจากชาวประมงถูกจีนโจมตีและปล้นสะดมที่หมู่เกาะพาราเซล ซึ่งจีนตอบโต้ว่าหมู่เกาะเหล่านี้เป็นดินแดนอธิปไตยของตน และเจ้าหน้าที่ของตน กำลังดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการทำประมงผิดกฎหมายของเวียดนาม
ซึ่งในวันนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเดินทางมาถึงเมื่อวันพฤหัสบดี ได้พูดถึงประเด็นเรื่องทะเลจีนใต้ ด้านแดเนียล คริเทนบริงค์ นักการทูตระดับสูงของสหรัฐประจำเอเชียตะวันออก กล่าวหาจีนว่า ใช้มาตรการที่ยกระดับและไร้ความรับผิดชอบ เพื่อบีบบังคับและกดดันชาติอื่นๆในทะเลจีนใต้
ในวันพฤหัสบดี กลุ่มผู้นำอาเซียนยังได้พบกับชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น และยุน ซุก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งหลังจากนั้น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ได้ประชุมไตรภาคีนอกรอบร่วมกัน