รวบแก๊งมหาโจร ทุบกำแพง ขนรถบดสั่นสะเทือน-ยกหม้อแปลง มูลค่าเกือบ 10 ล้าน

รวบแก๊งมหาโจร ทุบกำแพง ขนรถบดสั่นสะเทือน-ยกหม้อแปลง มูลค่าเกือบ 10 ล้านขายเศษเหล็ก สุดช็อกพบระดับสั่งการ เป็นตำรวจชุดสืบ ยศร้อยเอก

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์
รอง ผกก.สส. นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย เข้าทางการล้อมจับกุมคนร้าย ก่อเหตุลักทรัพย์ เครื่องจักรขนาดใหญ่ บริเวณด้านหลังโรงงานรับซื้อของเก่า เลขที่ 84/5 ม.1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการประสานจากเจ้าของโรงงานว่า มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ และทำลายทรัพย์สินของโรงงานได้รับความเสียหาย

ในเบื้องต้น ตรวจสอบบริเวณด้านหลังโรงงาน ซึ่งเป็นป่ามันสำปะหลัง พบผู้ต้องสงสัย 4 คน กำลังขนย้ายท่อนเหล็กนำหนักเกือบ 20 กก. จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ทราบชื่อต่อมา 1.นายวัชรากร แสนวงษ์ อายุ 35 ปี เลขที่ 6 ม.7 ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด 2. นายไกรลาศ สีมา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 484 ม.5 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 3. นายสมศักดิ์ เกิดโพธิ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.5 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 4. นายชัยชนะ ภุมมารักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.2 ต.หนองไม้แดง อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พร้อมยึดอุปกรณ์ตัดเหล็ก เครื่องมือช่าง และ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Hilux Revo สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒอ 8083 กรุงเทพมหานคร

 

 

โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่สามารถจับได้ ให้การว่า ได้รับคำสั่งจากนายจ้างให้เข้ามาขนเศษเหล็ก ซึ่งมีการตัด ทิ้งไว้รอแล้ว เพื่อนำไปขาย ที่โรงรับซื้อของเก่าในพื้นที่จังหวัดระยอง ส่วนคนที่ว่าจ้างไม่เคยเจอหน้า โดยจะรับคำสั่งการผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งจะเรียกกันว่า “ผู้กอง” ซึ่งขณะถูกจับกุม ซึ่งจะได้รับคำสั่งให้มาขนของ แต่ยังไม่ทันได้เคลื่อนย้าย ก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป , โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นโดยประการใดๆ หรือรับของโจร

ล่าสุดวันนี้ เวลา 10.00 น. ( 11 ต.ค.67 ) พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. และ ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับการ สภ.บางละมุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมกับเจ้าของโรงงาน โดยพบว่า โรงงานดังกล่าว เป็นโรงงานรับซื้อของเก่า และรีไซเคิล มีเนื้อที่ของโรงงานมีประมาณ 200 ไร่ ตรวจสอบบริเวณด้านหลังโรงงาน พบซากรถ 10 ล้อ , รถแบ็คโฮ รถยนต์ , รถเครื่องจักร ( jcb ขุดหน้าตักหลัง ) จอดเรียงรายหลาย 10 คัน ซึ่งรถทั้งหมดส่วนใหญ่ เป็นรถที่รอการซ่อมบำรุง โดยเบื้องต้นพบว่ารถแต่ละคัน ถูกตัดเพลา ยกหม้อน้ำ ตัดถังน้ำมัน จนหมดเกือบทุกคัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีร่องรอย การตัดเหล็ก บริเวณด้านหน้ารถเจซีบี ( รถขุดหน้าตักหลัง ) ได้รับความเสียหาย และ บริเวณเสาไฟข้างโรงงาน ซึ่งติดตั้งหม้อแปลง ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ถูกคนร้ายตัดสายไฟ และ ยกหม้อแปลง ขนาด 250 กิโลโวลต์ หายไป อีกทั้งยังพบว่า กำแพงของโรงงานสูงเกือบ 5 เมตร ถูกคนร้าย ทุบกำแพงเปิดช่องเพื่อเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ทั้งแผง 1 ช่อง และทุบเป็นช่องรูขนาดคนมุดเข้าไปได้ จำนวน 2 ช่อง

นางสาวนก นามสมมุติ อายุ 45 ปี หัวหน้าคนงาน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ก่อนหน้านี้ โรงงานถูกคนร้ายเข้ามาขโมยของบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้หนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้ง เพราะคนร้ายก่อเหตุ มีการทุบกำแพง แล้วเข้ามาขนรถบดสะเทือน ยี่ห้อเจซีบี มูลค่า 3 ล้านบาท หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อะไหล่เครื่องจักร และอะไหล่รถบรรทุก 10 ล้อ รวมถึงท่อนเหล็กน้ำหลักหลาย 10 ตัน ได้หายไป รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ทางเจ้าของโรงงานจึงให้ตนเองและพนักงาน มาเฝ้าดู จนกระทั่งพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ย้อนกลับมาขนของอีกครั้ง จึงแจ้งเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว ส่วนรถบดและหม้อแปลงที่ถูกขนย้ายไปก่อนหน้านี้เชื่อว่าต้องใช้คนจำนวนมาก รวมถึงรถที่มาขนย้ายต้องเป็นรถเครน มาขนไป และ เชื่อว่าต้องทำเป็นขบวนการ

ข่าวที่น่าสนใจ

ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ปรากฏว่ามีรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน ขับเข้ามาภายในไร่มันสำปะหลัง โดยคันแรก เป็นกระบะ สี่ประตู สีดำ คันที่ 2 เป็นรถกระบะ แค๊ป สีดำ บรรทุก ถังแก๊ซ ที่ใช้ในการตัดเหล็ก มาเต็มคันรถ ทีมข่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินเข้าไปสอบถาม แต่ปรากฏว่ารถคันแรก คนขับรถได้เปิดประตูลงมา แสดงตัวเป็นเจ้าของไร่มัน ต่อว่า ผู้สื่อข่าว และ ตำรวจว่า มาทำให้ไร่มันสำปะหลัง เสียหาย แต่รถอีกคัน ที่ตามหลังมา ได้จอดรถ แล้วมีชายฉกรรจ์ 4-5 คน ลงมาจากรถ และมีท่าทีตกใจ เมื่อเห็นตำรวจ พร้อมทั้งบอกว่า ขับตามรถคันแรกมา เพราะได้รับว่าจ้างให้มาตัดเหล็กเครื่องจักรขนาดใหญ่ โดยเดินทางมาจาก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมยืนว่า รถคันแรกเป็นคนขับนำทางมายังสถานที่ดังกล่าว ก่อนจะถูกตำรวจจับเข้าตรวจสอบ

ตำรวจมีการกดดัน คนขับรถคันแรก ทราบชื่อว่า นายเตี้ย นามสมมุติ อายุ 51 ปี เป็นช่างขุดเจาะบาดาล ก่อนที่เจ้าตัวจะยอมรับว่า ได้รับคำสั่งให้พาทีมผู้รับเหมาตัอเหล็กเข้ามาตัดของเก่า ในพื้นที่ดังกล่าว โดยก่อนหน้าช่วง 9 โมงเช้ายังสามารถติดต่อคนสั่งงานได้อยู่ แต่พอมาถึงโรงงานที่นัดหมาย กับติดต่อปลายสายไม่ได้ พยายามโทรเป็น 10 สาย ก็ไม่ยอมรับสายอีกเลย โดยปลายสายรายนี้ รู้เพียงว่า เป็น ตำรวจ ยศผู้กอง อีกทั้งยืนยันว่า ตนเองทำตามคำสั่งเท่านั้น

เบื้องต้น ตำรวจจึงเชิญตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวน ที่ สภ.บางละมุง และ จะกันไว้เป็นพยาน ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ระดับสั่งการ เป้นตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก เบื้องต้น พบว่าเป็นตำรวจจริง ในพื้นที่ อ.สัตหับ จ.ชลบุรี อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล นอกจากนี้ กลุ่มแก๊งดังกล่าวที่จับกุมได้ เชื่อว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และ มีนายตำรวจรายนี้อยู่เบื้องต้น ระดับสั่งการ และจะเลือกลงมือก่อเหตุกับโรงงานร้าง ที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวน หาจุดเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวบแก๊งมหาโจร ทุบกำแพง ขนรถบดสั่นสะเทือน-ยกหม้อแปลง มูลค่าเกือบ 10 ล้าน
“กันต์ กันตถาวร” เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์เชิญสื่อแจงประเด็นร้อน "ดิ ไอคอน กรุ๊ป" 12 ต.ค. นี้
“พีพี กฤษฏ์” เปิดใจเคลียร์ หลังมีชื่อเอี่ยว "ดิ ไอคอน กรุ๊ป" ยัน เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าตัวเดียว หมดสัญญาแล้วจบงาน
สุดหดหู่ใจ "น้ำป่าเทือกเขาหลวงเมืองคอน" ซัด 3 นทท.ภูเก็ต เสียชีวิต 2 ราย รอดชีวิต 1 ราย
"เมียหรั่ง" โผล่ให้ปากคำตร. ปคบ.ตามหมายเรียกคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" หลอกขายทอง ลั่นยังรักแม่ตั๊กอยู่ แต่ก็ต้องแยกส่วนกัน
“ทนายเกิดผล” ชี้เหล่าดารา-พิธีกรดังที่มีเอี่ยว "ดิ ไอคอน" รอดยาก ลั่นถ้ารอดคงต้องใช้เส้นสาย ทำลายความยุติธรรม
"อดีตแม่ข่าย ดิไอคอน" เชื่อกรรมตามสนองบิ๊กบอส พร้อมตั้งข้อสังเกตยอดขาย 5 พันล้าน เชื่อเป็นเงินเหยื่อที่ถูกหลอกมาลงทุน
แวะเติมก่อนเข้าบ้าน พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคา เบนซิน แก๊สโซฮอล์ปรับทุกชนิด
เพจดัง ปูดข่าว พรุ่งนี้เตรียมปลดป้ายโฆษณา “ดิ ไอคอน” ทั้งหมด
"เลขาปปง." จ่อชงกรรมการธุรกรรม อายัดทรัพย์ "ดิ ไอคอน" 17 ต.ค.นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น