“พ.ต.อ.ประทีป” ท้าชน ลั่นไม่ใช่เทวดารับสินบน ผิดจริงพร้อมเข้าคุก จี้ตัวแอบอ้างออกมาด่วน

“พ.ต.อ.ประทีป”โผล่โหนกระแส สงสัยโดนเตะตัดขาแคนดิเดตเลขา สคบ. ปมมีชื่อในคลิปเสียงหลุด ยันไม่สนิท “บอสพอล” และไม่ใช่เทวดารับสินบน หากผิดจริงพร้อมเข้าคุก ขู่ฟ้องคนแอบอ้าง

“พ.ต.อ.ประทีป” ท้าชน ลั่นไม่ใช่เทวดารับสินบน ผิดจริงพร้อมเข้าคุก จี้ตัวแอบอ้างออกมาด่วน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลักฐานใหม่ถูกแฉรายวันเลยทีเดียว สำหรับดราม่าดิไอคอน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าประเด็นจะถูกขยายวงกว้างออกไปจนเกินจะควบคุมแล้ว เช่น กรณีที่เพจบิ๊กเกรียน และเพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้เปิดหลักฐานไว้หลายโพสต์ เกี่ยวกับเทวดาผู้หิวบุญ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.หนึ่งในหลักฐานนั้น คือคลิปเสียงการสนทนาระหว่างคนสองคน คนหนึ่งตามข้อมูล อ้างว่าเป็นนักการเมือง ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือบอสพอล แห่งดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งพอลเองก็ยอมรับแล้วว่าเป็นเสียงตัวเองจริง

 

 

โดยในคลิปเสียงมีการระบุว่า นักการเมืองท่านนี้ เป็นผู้สนับสนุนผู้บริหาร สคบ.ท่านหนึ่งชื่อประทีป ให้ขึ้นนั่งตำแหน่งรองเลขาธิการ สคบ. เพราะฉะนั้น พอลต้องดูแลพี่ให้ดีกว่านี้และวันหนึ่ง พอลจะสนับสนุนใครนั่งตำแหน่ง เลขาธิการ สคบ.ก็ได้ แล้วถ้าวันนั้นมาถึง เลขา สคบ.ก็จะทำได้ตามสั่ง เหมือนกับขี้ เดินตามเราต็อกแต๊กๆ

 

ล่าสุด บุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อในคลิป และถือเป็นแคนดิเดต 1 ใน 4 คน ที่อาจจะได้ดำรงตำแหน่งเลขา สคบ. ได้ออกมาเปิดหน้าท้าชนในรายการโหนกระแสด้วยตัวเอง นั่นก็คือ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเจ้าตัวบอกว่า จริงๆ ก็แปลกใจ ว่าทำไมมีการปล่อยคลิปเสียงเทวดารับสินบน ในช่วงเวลานี้ อาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า มีจุดประสงค์อะไร เป็นการเตะตัดขาในการเป็นแคนดิเดตหรือไม่

 

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประทีป ได้อธิบายคลิปแรก ที่มีการพูดถึงเทวดา ยืนยันว่าตนไม่ใช่เทวดาที่ถูกพูดถึงอย่างแน่นอน โดยในปี 61 ตนตรวจสอบพบว่าดิไอคอนมีปัญหาจริง จึงได้เสนอมาตรการดำเนินการกับดิไอคอน แต่เรื่องเงียบกริบ หลังจากนั้นปี 62 ตนถูกย้ายตำแหน่งไปกองอื่น จากนั้นก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองขายตรงอีกเลย ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ปี 62

 

 

ส่วนคลิปที่สอง ที่มีมีการเอ่ยชื่อประทีป ชี้แจงว่า ส่วนตัวคุ้นเสียงคนในคลิปที่พูดชื่อตน ยอมรับว่ารู้จักจริง แต่ไม่ได้สนิทกัน แต่ไม่ขอยืนยันว่าเป็นใคร เพราะเจ้าตัวเค้าออกมาปฎิเสธ ส่วนกรณีของพอลก็เคยเจอ 2 ครั้ง ไม่ได้สนิทคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว เจอครั้งแรกในปี 61 เค้ามายื่นขอหารือเรื่องธุรกิจที่ทำ ส่วนครั้งที่สอง ปี 65 พอลมาหาในเทศกาลไหว้พระจันทร์ นำขนมมาให้ เข้ามาพบผู้บริหารทุกคน ไม่ใช่มาพบตนคนเดียว ซึ่งตอนพอลมาหารอบ 2 ตนยังจำหน้าไม่ได้เลย เพราะหน้าตาพอลเปลี่ยนไป หน้าดูเรียววีเชฟมากขึ้น พ.ต.อ.ประทีป ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า รูปถ่ายที่พบกับพอลครั้งที่สอง ลูกน้องเก่าที่อยู่ในกองขายตรงเป็นคนถ่าย ดังนั้นเค้าจึงเป็นคนเดียวที่มีรูปอยู่ในมือถือ จึงสงสัยว่าทำไมรูปถ่ายนี้ มาปรากฎในสื่อตอนนี้ได้  เรื่องดราม่าคลิปเสียงหลุด มองว่าเป็นเรื่องการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ตอนนี้ตนได้รับความเสียหายมาก เพราะคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเทวดาใน สคบ. ยืนยันจะดำเนินคดีคนที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

 

 

พ.ต.อ.ประทีป ยังเปิดใจด้วยว่า ตนโตมาด้วยเนื้องานจริงๆ ไม่มีใครสามารถมาผลักดันตนได้ ไม่มีใครจะไปสั่งคณะกรรมการคัดเลือกตำแหน่งได้ อีกทั้ง ตนเป็นคนมีจุดยืนในการทำงาน มีอุดมการณ์ ตนไม่มีทางเดินตามใครต๊อกแต๊กๆ อย่างแน่นอน ยืนยันไม่เคยรับผลประโชน์เกิน 3 พันบาทจากใครแน่นอน ถ้าพบว่าตนทำผิด มาเอาไปเข้าคุกได้เลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น