นายกฯ ขอบคุณ รมต.ทุกกระทรวง เร่งฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย
ข่าวที่น่าสนใจ
วันที่ 15 ต.ค. 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) วันนี้ (15 ต.ค.67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ทุกหน่วยงานและจิตอาสา ที่ลงพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ประธาน ศปช.ส่วนหน้า และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ที่ลงไปอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อประสานหน้างานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายไปมาก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ประสบภัยถึงการช่วยเหลือของรัฐบาลและทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง
“นายกรัฐมนตรี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนการให้ข้อมูลและแจ้งเตือนของ ศปช.ส่วนกลางและส่วนหน้า ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องถือว่าปีนี้ไม่ค่อยมีข้อผิดพลาด จึงขอบคุณ ศปช. ที่ให้ข้อมูลที่ชัดเจน และทุกภาคส่วนดำเนินการได้อย่างรัดกุม”
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการในที่ประชุม ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ศึกษาระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หากเป็นประกาศที่นายกฯ ลงนามได้ ให้รีบดำเนินการเสนอขึ้นมา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้ขอให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนแม่บทสรุปการทำงาน เช่น การแก้ไขปัญหาจังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการอย่างไร นอกจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและเมียนมาเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อกำหนดกรอบการเตือนภัยและป้องกันภัยพิบัติให้ประชาชนทั้งสองประเทศ
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ทั้งมาตรการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายครอบครัวละ 9,000 บาท และค่าล้างโคลนหลังละ 10,000 บาทแล้ว ล่าสุด กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ต้องนำเงินชดเชยมาคำนวณเสียภาษี ส่วนนิติบุคคลไม่ต้องนำเงินชดเชยมาคำนวณเสียภาษี และยกเว้นภาษีอากรนำเข้าสิ่งของที่นำมาบริจาค นอกจากนี้ กรมธนารักษ์จะยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 ปีสำหรับบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วน และยกเว้นค่าเช่า 2 ปีให้บ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง หากเป็นเกษตรกร ยกเว้นค่าเช่า 1 ปี และยังมีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พักหนี้เงินต้น และขยายเงินกู้ ของธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารเอสเอ็มอี และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อออกเป็นระเบียบหรือพระราชกฤษฎีกา ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนตุลาคมนี้
ส่วนความคืบหน้าการสร้างบ้านและซ่อมแซมบ้านให้ผู้ประสบอุทกภัย นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ลงพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เดินทางลงพื้นที่บ้านรวมมิตร หมู่ 2 บ้านแคววัวดำ หมู่ 12 ต.แม่ยาว และบ้านเมืองงิม หมู่ 4 ต.ริมกก มอบบ้านพักซึ่งเป็นบ้านน็อคดาวน์ ตามโครงการ “บ้านร่วมใจ” (สร้างบ้านน็อคดาวน์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม) และติดป้ายประจำบ้านแต่ละหลัง พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านถูกน้ำพัดเสียหายทั้งหลัง และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ทั้งนี้การสร้างบ้านน็อคดาวน์ เป็นฝีมือของผู้ต้องขังจิตอาสาราชทัณฑ์ เรือนจำกลางเชียงราย จำนวน 32 หลัง ประกอบด้วย ที่บ้านรวมมิตร 17 หลัง บ้านแคววัวดำ 6 หลัง บ้านจะเด้อ 6 หลัง บ้านโป่งนาคำ 1 หลัง และบ้านเมืองงิม 2 หลัง นอกจากนี้ยังซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 53 หลัง (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค.67) พร้อมทั้งเข้าปรับภูมิทัศน์ ขุดนำดินโคลนไปทิ้ง โดยได้รับร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคมจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ประสบภัยมีที่พักอาศัยที่ปลอดภัยและสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น