“ดร.จุฬา” เลขาธิการ EEC มั่นใจ รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน เริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 68 เป็นของขวัญปีใหม่คนไทย

"ดร.จุฬา" เลขาธิการ EEC มั่นใจ รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน เริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 68 เป็นของขวัญปีใหม่คนไทย

“ดร.จุฬา” เลขาธิการ EEC มั่นใจ รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน เริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 68 เป็นของขวัญปีใหม่คนไทย – Top News รายงาน

 

 

หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หรือ กพอ. เห็นชอบหลักการการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (*สามสนามบิน ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภา) โดยการปรับปรุงสัญญาร่วมลงทุนเพื่อผลักดันให้โครงการฯ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ บนพื้นฐานที่ภาครัฐไม่เสียประโยชน์ และภาคเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินสมควร โดยจะเสนอการแก้ไขสัญญาต่อ ครม. เพื่อพิจารณาใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย

1. วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC) จากเดิม เมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงฯ รัฐจะแบ่งจ่ายเป็นจำนวน 149,650 ล้านบาท ปรับเป็น จ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตรวจรับวงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท โดยเอกชนต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท เพื่อรับประกันว่าจะก่อสร้างและเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงฯ ได้ภายใน 5 ปี ทั้งนี้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของภาครัฐ (รฟท.) ทันทีตามงวดของการจ่ายเงิน

2. กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่า ๆ กัน โดยต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา ในการนี้เอกชนจะต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคาร ในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่นที่ รฟท. ต้องรับภาระ

3. กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการฯ ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ และเป็นผลให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท. มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ ตามจำนวนที่จะตกลงกันต่อไป

4. การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) โดยให้คู่สัญญาจัดทำบันทึกข้อตกลงยกเว้นเงื่อนไข NTP ที่ยังไม่สำเร็จ เพื่อให้ รฟท. สามารถออก NTP ได้ทันทีเมื่อลงนามสัญญาที่แก้ไขตามหลักการทั้งหมดนี้

5. การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ให้สัมภาษณ์พิเศษ กับ สถานีข่าว Top News ว่า  หัวข้อการพูดคุยกับภาคเอกชน ในการร่วมแก้ปัญหาความล่าช้าของโครงการ เนื่องจากมีการเซ็นสัญญาไป 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง

จนปัจจุบันด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงทำให้มีความจำเป็นต้องกลับมาดูเรื่องการปรับแก้สัญญาให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ” 5 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์มันเปลี่ยนเยอะ วิกฤตโควิดทำให้ค่าก่อสร้างแพงขึ้น ปริมาณคนโดยสารเปลี่ยนไป ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไปเปลี่ยนแปลงไป ก็มีการคุยกันถึงโปรเจคที่เคยคิดว่าจะใช้เงินแบงค์มาช่วย เพราะแบงค์เริ่มมองว่าโครงการที่จะกู้เงินไปแล้ว อาจไม่สามารถคืนเงินแบงค์ได้

จึงมีความพยายามจะคุยตกลงว่าควรทำอย่างไรดีเพื่อให้ไปต่อได้ ภายใต้ข้อตกลง 5 ข้อ ถ้าไปตามนั้นได้แล้วพอไหว โครงการก็จะเดินหน้าไปต่อ โดยภาครัฐต้องมีลักษณะที่ไม่เสียประโยชน์ เพราะที่คุยกันเขาก็คิดว่าเขาทำได้ แต่ถ้าเขาหาหลักประกันไม่ได้ ก็ต้องเลิกรากันแล้วก็เอาคนใหม่มาทำ เพราะเราปล่อยคาราคาซังอึมครึมแบบนี้ มันเสี่ยง มันไม่ได้มีอะไรได้ประโยชน์เลย มีแต่ทำให้เกิดความเสียหาย”

 

ทั้งนี้ ดร.จุฬา ยังระบุว่า โดยหลักการ ทาง กพอ.อยากให้ทุกอย่างไปต่อได้ เพราะถ้าต้องเปิดประมูลใหม่ หรือ รัฐเป็นผู้ลงทุนแล้วจ้างเอกชนมาเดินรถไฟความเร็วสูง ก็อาจจะต้องเปลี่ยนลักษณะของโครงการใหม่ ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้โครงการเดินไปไม่ได้ และความเสียหายจากการที่โครงการหายไป 5 ปี จะมีมากกว่า การมาฟ้องร้องกัน กรณีเอกชนไม่สามารถเดินหน้าโครงการ ซึ่งเบื้องต้นมีอยู่แล้วประมาณ 1.2 หมื่นล้าน ที่ถือเป็นค่าใช้จ่าย

ดร.จุฬา

ส่วนท่าทีของภาคเอกชน หรือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ในการร่วมหาทางออกปัญหา ดร.จุฬา ระบุว่า “หลักการนี้เขาเห็นแล้วว่าไปได้ กว่าจะเป็นแบบนี้ก็ได้คุยกันไปบ้างแล้ว ได้เจรจากันไปบ้างแล้วว่าหลักการต้องไปอย่างนี้เขาก็ว่าไปต่อได้ แต่คราวนี้เรื่องหลักๆเขาต้องพยายามหาหลักประกันหาแบงค์ที่เอามาวาง หาได้ไม่ได้ก็เอกชนต้องไปดู เพราะว่าตัวนี้ไม่ใช่เราดูฝังเดียว ก็ได้คุยกับเขาบ้างแล้ว”

นอจากจากนี้ ดร. จุฬา ยังเน้นย้ำว่า ท้ายที่สุดผลการพูดุคุย ภายใต้การปรับ แก้เงื่อนไขสัญญา จะทำให้โครงการเดินหน้าเร็วที่สุด “เราคิดว่าเซ็นสัญญากันภายในปีนี้ เพราะเดี๋ยวต้องเข้า ครม. อีกรอบหนึ่ง หลังจากรอบนี้ คือต่อไปก็ต้องไปคุยเอกชนลงรายละเอียดกัน เราก็เข้า ครม. อีกรอบหนึ่ง เราคิดว่าจะให้เซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ เริ่มก่อสร้างกันต้นปีหน้า คิดว่าก็เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน”

คือถ้าเอกชนจะทำ เราต้องการให้เริ่มก่อสร้าง เดือนมกราคม ปี 2568 แต่ถ้าสมมุติเอกชนไม่ทำเราต้องหาใหม่ว่ารูปแบบจะทำอย่างไร เช่น รัฐอาจลงทุนไปก่อน แล้วหาเอกชนมาเดินรถไฟฯ ซึ่งกรณีแบบนั้นยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลการเจรจา 5 เงื่อนไข แต่ถ้าภาครัฐ หรือ ภาคเอกชน ยกเลิกสัญญาเอง ก็จะสุ่มเสี่ยงต้องฟ้องร้องกันอีก ซึ่งปัจจุบันโครงการเดินหน้าไปมากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ในเขตกรุงเทพฯที่ดำเนินการไปแล้วครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระยศ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เป็น "พลเอกหญิง"
รวบทันควัน เจ้าช้างน้อย บุกลักทรัพย์นักธุรกิจ ประวัติสุดแสบ! แหกบ้านพักเด็กหนี ไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ทั่วพัทยา
ล่วงฆ่าแม่ยายอัยการ สืบสัตหีบ ไล่กล้องวงจรปิดพบเก๋งคนร้าย มารับตัวก่อนลวงไปฆ่าชิงทรัพย์ ล่าสุด เจอตัวแล้ว
ตำรวจสืบภาค 2 และตำรวจหนองขาม ควบคุมตัวหญิงผู้ต้องสงสัย พร้อมรถยนต์เก๋ง คดีล่วงฆ่าชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ล่าสุดให้การปฏิเสธ ในขณะสามีผู้สงสัยหายตัว
จังหวัดสุรินทร์ จัดยิ่งใหญ่งานแสดงช้าง กับ 5 องค์การแสดง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ แห่ชมแน่นสนาม ด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการนั่งช้างเปิดงาน
สีจิ้นผิงหนุนเร่งสร้างทางรถไฟจีน-ไทย ขยายความร่วมมือเกิดใหม่
"กองบิน 46" ประกอบพิธีทำบุญทอดกฐินสามัคคี ประจำปี2567
คาด่าน "รถ18 ล้อ" ดัดแปลงใต้ท้องรถซุกแรงงานต่างด้าว 8 คน ไม่พ้น สายตาจนท.ด่านตรวจ
คุมตัว “กฤษอนงค์” เค้นสอบ เจ้าตัวไหว้สวย ยิ้มแย้มไร้กังวล ด้านพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว เตรียมฝากขังศาลภายใน 48 ชม.
ชาวสัตหีบชาวไทยและต่างชาติ ร่วมลอยกระทง สืบสานประเพณีไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น