ประมาทไม่ได้ “ไพศาล” ชี้ คำร้อง 6 ข้อ ปม “เพื่อไทย-ทักษิณ” รอลุ้นระทึกผลวินิฉัย – Top News รายงาน
สืบเนื่องจากกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และอีกหลายคนออกมาร้องรัฐบาลเพื่อไทย จนทำให้สังคมจับตามองว่า ทิศทางการเมืองจะมีบทสรุปอย่างไรนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 ต.ค.67) ทางด้าน อาจารย์ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ เรื่องลับมาก ช่อง TOP NEWS โดยกล่าวว่า ที่คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องมีหลายเรื่องที่มีโอกาสจะสอยรัฐบาลได้ แต่บางเรื่องก็บางไป แต่คุณเรืองไกร ก็ถือว่าเป็นมืออาชีพในการร้อง เขาแม่นกฎหมาย และเป็นนักบัญชี เขาเคยทำงานให้กับสตง. จึงมีความละเอียดรอบคอบ เช่นเรื่องจันทร์ส่องหล้า เรื่องตั้งรัฐมนตรียุติธรรม เรื่องอัลไพน์ เรื่องถือหุ้น 20 บริษัท และอีกหลายเรื่อง สามารถน็อคได้ทั้งนั้น ส่วนเรื่องที่ไปหาเสียงที่ปทุมธานี กกต.สั่งทุจริตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้มีคนร้อง 15 เรื่องแล้ว
เมื่อสอบถามเรื่องประเด็นอัลไพน์ ที่ “คุณไพศาล” ไปโพสต์เอาไว้ว่า “คุณอุ๊งอิ๊ง” โดนอีกดอกไม่ว่าจะเป็นเรื่องโกงที่วัดอย่างอัลไพน์ที่ดินต่าง ๆ นานาเรื่องนี้จะเป็นหมัดน็อคได้ไหม
อาจารย์ไพศาล กล่าว เรื่องนี้ฝ่ายตั้งร้องหวังเรื่องนี้ว่าน็อค ถ้ายื่นแล้วศาลอาจจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที เพราะเขามีฐานที่มีน้ำหนักมาก 2 ฐาน
ฐานแรก คือ คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ วินิจฉัยว่าเป็นธรณีสงฆ์
ฐานที่สอง คือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย สองเรื่องนี้ แทบไม่ต้องสืบพยานแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องไปแก้อย่างไร ถ้าแก้ไม่เป็นหรือแก้ผ้าเพลงเดียวตกม้าตายเลย
เมื่อถามเรื่อง 6 ประเด็น
เรื่องแรก นักโทษเทวดาชั้น 14
อาจารย์ไพศาล กล่าว คือต้องเอาโดยรวมก่อนเรื่องหกประเด็นวันนี้ นักอ่านกำลังภายในเขาว่าเป็นกระบวนท่าเดียวกับยุบพรรคก้าวไกล การยุบพรรคก้าวไกลและเรื่องที่เขาร้องมันไม่สามารถที่จะยุบพรรคได้ แต่เขาก็บอกว่าหกข้อหาที่เหมือนกัน แต่ละข้อหามันไม่มีความชัดเจนว่าล้มล้างการปกครอง เหมือนกับเชือกเส้นหนึ่ง แต่ละเส้นไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักว่าล้มล้างการปกครองได้ แต่เมื่อเชือกหกเส้นรวมกันแล้ว มันมีน้ำหนักแน่นหนาที่จะมัดมัดได้ ซึ่งถือเป็นกระบวนถ้าน็อค ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญหาว่าเชือกแต่ละเส้น คืออะไร เลยใช้เกิดคำว่าเซาะกร่อนขึ้นมา รัฐธรรมนูญพูดชัดแต่ละข้อหาเชือกแต่ละเส้นไม่สามารถล้มล้างการปกครองได้ก็จริง แต่เมื่อเชือกทั้งหกเส้นขาดแล้วมันก็ล้มล้างการปกครองได้เพราะงั้นการที่ทำลายเชือกแต่ละเส้นคือการเซาะกร่อนนั้นคำว่าเซาะกร่อนจึงเกิดขึ้นมา
เพราะงั้นที่เขามาร้องใหม่เรื่องหกข้อหา ก็เทียบว่าแต่ละข้อหามันไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าล้มล้างการปกครองเหมือนเชือกเส้นน้อยเส้นหนึ่ง แต่เมื่อหกเส้นรวมกันแล้วมันมัดแน่นว่านี่คือการล้มล้างการปกครองแน่ เพราะงั้นนี่คือกระบวนท่าเดียวกัน แล้วกระบวนท่านี้มันปรากฏครั้งแรกเมื่อไรรู้ไหม ลีลาการเขียนเนี่ย วันนี้ฝ่ายรัฐบาลรู้หรือยังว่าสู้อยู่กับใคร คุณธีรยุทธนั่นอาจจะตัวแสดงเพราะคนเขียนไม่ใช่มือธรรมดา แต่คือมือชั้นครู ผมนี่เป็นนักกฎหมายระดับหัวหน้าสำนักผมยังว่าเขาเขียนยอดเยี่ยมมาก