“ผู้เสียหายสาว” แฉอีก ถูก “แม่ข่าย” ดิ ไอคอน ใช้วิกฤตช่วงโควิด หลอกคนให้ลงทุน

เหยื่อสาวชาวกระบี่ แฉ ‘ดิ ไอคอน’ ใช้วิกฤตช่วงโควิด-19 หลอกคนกำลังเดือดร้อนให้ลงทุน

“ผู้เสียหายสาว” แฉอีก ถูก “แม่ข่าย” ดิ ไอคอน ใช้วิกฤตช่วงโควิด หลอกคนให้ลงทุน – Top News รายงาน

ผู้เสียหายสาว

 

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กระบี่ มีผู้เสียหายอีกรายที่ตกเป็นเหยื่อของเครือข่าย ดิไอคอน กรุ๊ป คือ น.ส.ศิริวิกรณ์ เพ็งเคียน อายุ 45 ปี ชาวบ้าน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง หลังตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนกับดิ ไอคอน กรุ๊ป สูญเงินไป 325,000 บาท โดยเจ้าตัวเปิดบูธขายทัวร์อยู่ใน ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เผยว่า ช่วงที่หลงไปลงทุนกับ ดิไอคอน เป็นช่วงวิกฤตโควิด-19 ในปี 2563

น.ส.ศิริวิกรณ์ เผยว่า ช่วงโควิดระบาด เป็นช่วงที่เธอไม่สามารถทำธุรกิจได้ ไม่มีรายได้มาเลี้ยงตัวเอง จึงมองหาช่องทางทำงานเพื่อหารายได้ประคองตัวเอง จนไปพบเครือข่ายดิไอคอน ตอนแรกก็ดูว่าเป็นเครือข่ายน่าเชื่อถือ เพราะมีสมาชิกในเครือข่ายเป็นคนโปรไฟล์ดีๆ มีทั้ง ผอ.โรงเรียน ข้าราชการ หมอ แม้ช่วงนั้นจะยังไม่ทีนักแสดง หรือศิลปินมาอยู่ในเครือข่าย เธอจึงลองสมัครเข้าร่วมเพราะอยากลองดู

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยสมัครเข้าครั้งแรกด้วยค่าเรียน 79 บาท พอเรียนไปได้ 3-4 วัน แม่ข่ายคือ ‘บอสปัน’ ซึ่งเป็น 1 ใน 18 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ก็แนะนำให้เปิดบิลสินค้าครั้งแรก 2,500 บาท จากนั้นก็มีการพูดชักจูงให้ลงทุนเพิ่มอีก 25,000 บาท เป็นการซื้อสินค้าเป็นกาแฟ มาขาย พอตนตัดสินใจซื้อก็จะมีการชักจูงให้ลงทุนเพิ่มเป็นดีลเลอร์ 250,000 บาท รวมๆ กับอีก 50,000 บาท ตอนนั้นตนต้องไปกู้เงินจากธนาคารมาลงทุน รวมทั้งนำรถยนต์ไปตั้งกับไฟแนนซ์ และนำทอง 3 บาท ไปขายมาลงทุน รวมๆ แล้วกว่า 3 แสนบาท

น.ส.ศิริวิกรณ์ เล่าต่อว่า พอทำไปได้สักระยะ ก็จะชักชวนให้ตนไปหาเครือข่ายมาลงทุนเป็นดีลเลอร์เพิ่ม ตนจึงไปชักชวนเพื่อนมาได้ 1 คน ลงทุนไป 250,000 บาท ตนได้ส่วนแบ่งเหมือนเป็นค่าหัว มา 2 หมื่นบาทเศษ ส่วนรายได้ที่เหมือนจะได้ จะมีการโชว์ยอดเงินให้เห็นในระบบแอปพลิเคชั่นของบริษัท แต่มีเพียงตัวเลขไม่สามารถเบิกเป็นเงินได้จริง แม่ข่ายบอกเพียงให้ตนนำตัวเลขนั้นไปโชว์ให้คนอื่นดูว่ามีเงินกำไรได้มาจริง เพื่อชักชวนให้คนอื่นมาลงทุน

ส่วนสินค้าที่ตนได้มาจากการลงทุน ก็ไม่สามารถนำมาขายได้ เพราะไม่มีคนซื้อ ทุกวันนี้ยังเหลือสินค้าอยู่จำนวนมาก ตนร่วมทำกับเครือข่ายมาได้ 3-4 เดือน ก็เริ่มเห็นว่าไม่ได้อะไรกลับมาเลย ประกอบกับช่วงนั้นวิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลาย กลับมาทำธุรกิจได้ จึงเลิกติดต่อไป กระทั่งมาเห็นข่าวเรื่องดิไอคอน จึงรู้สึกโกรธมาก ที่ไปหลอกผู้คนที่กำลังลำบาก ในช่วงวิกฤตโควิด และยังมีคนถูกหลอกทั้งคนพิการ คนแก่ บางคนต้องจบชีวิตตัวเอง จึงตัดสินใจไปแจ้งความดำเนินคดี และหวังว่าจะได้เงินที่ลงทุนไปคืนกลับมาบ้าง

ปัจจุบันนี้ ตนเองยังเป็นหนี้กับธนาคารและไฟแนนซ์อยู่ ยังต้องผ่อนชำระเอง ยอมรับว่าเสียเวลา และเสียความรู้สึกมาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“สรวงศ์” ขอดูคุณสมบัติเข้ม หาก “สจ.จอย” ลงสมัครนายกอบจ.ปราจีน ในนามเพื่อไทย ต้องทำหนังสือแจ้งตามขั้นตอนให้ถูกต้อง
ผบ.ตร.เปิดไทม์ไลน์โอนคดี "สจ.โต้ง" จับตาเลือกตั้งอบจ.ปราจีนบุรี ลุยกวาดล้างมาเฟีย
ซีพี แอ็กซ์ตร้า แจ้งนักลงทุน ย้ำแผนพัฒนา Lotus’s Mall Bangna (the Happitat) ยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและการเติบโตของธุรกิจ
หลากกิจกรรมท้าลมหนาวจีนในเฮยหลงเจียง
ขุนเขา ‘พระพุทธทองคำ’ จีนยามหิมะขาวคลุมในฉงชิ่ง
นายกเมืองพัทยา สั่งฟัน จนท.นอกรีด เก็บส่วย-กินฟรี แม่ค้าปลาหมึก ยันรู้ตัวคนทำผิดเป็นพนักงานOutsource
"นิพนธ์" ชี้การกระจายอำนาจ คือทางรอดลดความเหลื่อมล้ำ ย้ำแจกเงินแก้ไม่ตรงจุด ต้องสร้างอาชีพ-ทำชุมชนเข้มแข็ง
จีนเดือดหลังอียูคว่ำบาตรบริษัทผลิตโดรน
นายพลรัสเซียถูกระเบิดดับกลางมอสโก
จีนขยายเวลาวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวแวะพักเป็น 10 วัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น