เวลา 14.00 น.วันที่ 18 ตุลาคม 2568 ที่ห้องประชุมยุทธนาวีเกาะช้าง ศาลากลางนายพีระ รักษาทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายสมาคมฯ พร้อมสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของสมาคมฯ เดินทางมายื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีความเสียหายจากการบริหารงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์วัดหนองบอนกว่า 100 คนนำโดยนายสมยศ ปิ่นงาน ตัวแทนประชาชนร่วมประชุมกับพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายเอกลักษณ์ ศิริวัฒนาวงศ์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมาย และการบังคับคดี พมจ.ตราด,นายสุเมธ ตะเพียนทอง นายอำเภอบ่อไร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อลร่วมประชุมพร้อมพ.ต.ท.สมศักดิ์ ผลกระโทก สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบอน อ.บ่อไร่ ร่วม
นายสมยศ ปิ่นงาน กล่าวในที่ประชุมว่า เหตุที่ต้องเดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งนี้ เนื่องจาก ข่าวสารที่ปรากฏในสื่อมวลชนท้อลถิ่นและส่วนกลาง พบว่า การบริหารงานของสมาคมฯประสบปัญหาการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริตและสร้างความเสียหายให้กับสมาคม ฯและสมาชิกมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่มีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการเงินหรือการบัญชี และคณะกรรมการสมาคม ๆ จะได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจให้สมาชิกทราบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากเจ้าหน้าที่เพียง รายหนึ่งเพียงรายเดียวซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้เก็บเงินสงเคราะห์จากสมาชิก และแม้จะมีการประชุมชี้แจงมาแล้ว แต่กลับยังไม่สามารถทำให้ความชัดเจนและสรุปวิธีการแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิก ๆ ได้ กลับกันกับยิ่งเพิ่มความข้องใจมากยิ่งขึ้นอีก ทำให้สมาชิกขาดความเชื่อมั่น ทำให้สมาชิกได้ทำการรวมตัวกันเพื่อขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราดช่วยเหลือครั้งนี้
ขณะที่พ.ต.ท.สมศักดิ์ ชี้แจงว่า นายปกรณ์ ราชนิยม อุปนายกสมาคมณาปนกิจสงเคราะห์วัดหนองบอนได้รับการแจ้งความดำเนินคดีกับนางวิภารัตน์ กุระธารสายชล แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน จากเดิมที่มีประมาณ 10 กว่าราย แต่ปัจจุบันมีกว่า 100 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนสมาชิกที่ได้รับผลกระทบไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งพฤติกรรมคือ ผู้ต้องหาได้ทำการสวมสิทธิคนตายไปประมาณ 10 กว่ารายและได้ทำการเบิกเงินจากสมาคมฯไป 4 แสนกว่าบาท และเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 มีการนำรายชื่อมาเพิ่มให้อีก 123 ราย พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบการเสียชีวิต และเพื่อนำมาเป็นหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบสวนพยาน และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ผู้ต้องหามาให้ปากคำส่วนหนึ่งแล้ว และพยายามหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ ทั้งนี้ สรุปในเบี้องต้นมีการกระทำผิดรวม 123 ครั้ง
ขณะที่นายพีระ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางจังหวัดตราดโดยผู้ว่าราชการจ.ตราด และตนเองพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และขอให้เชื่อมั่นการทำงานของทางจังหวัด ซึ่งในเวลา 15 วัน จะทำรายงานความคืบหน้าให้กับการดำเนินการสอบสวนให้ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ ขอให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบใจเย็นๆและรอคอยการดำเนินการของทางจังหวัด ที่จะมีอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมาย และการบังคับคดี ร่วมสอบสวนกับทางพนักงานสอบสวนสภ.หนองบอน เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น ซึ่งทราบว่า สมาชิกยังต้องการให้สมาคมฯนี้อยู่ต่อไป เนื่องจากมีประโยชน์กับสมาชิกทุกคน
ภาพ/ข่าว จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าว จ.ตราด