ปปง.อายัดทรัพย์สิน “ดิไอคอน กรุ๊ป” กับพวกเพิ่มเติม รวมเกือบ 49 ล้านบาท

ปปง.อายัดทรัพย์สิน “ดิไอคอน กรุ๊ป” กับพวกเพิ่มเติม รวมเกือบ 49 ล้านบาท

Top news รายงาน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 สำนักงาน ปปง.ออกเอกสารแถลงผลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกรณีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก (เพิ่มเติม) ระบุว่า

ตามที่เลขาธิการ ปปง. มีคำสั่งที่ ย. 214/2567 และคณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งที่ ย. 222/2567 ให้อายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว จำนวน 12 รายการ รวมทั้งสิ้น 127,086,381.51 บาทนั้น เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานอันมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว และกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ปปง. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ออกคำสั่งที่ ย. 223/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีนี้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นทรัพย์สินประเภทหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝาก จำนวน 40 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 48,958,234.26 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการโอนคริปโทเคอร์เรนซี (USTD) มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานในคดีนี้นั้น สำนักงาน ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความมีอยู่จริงของธุรกรรมดังกล่าว และหากพบการทำธุรกรรมนั้นจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

สำนักงาน ปปง. ขอเน้นย้ำว่าทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินนั้น หากผู้ใดโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะ หรือหลังการกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำ ด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอาจมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึง สองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมว.สุดาวรรณ" เปิดงานสืบสานประเพณี แห่พระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูเมือง "มหาสงกรานต์โคราช" มรดกไทย มรดกโลก ตั้งเป้าดึงนทท.ไทย-ต่างชาติ สร้างรายได้ชุมชน
“อนุทิน” กำชับปภ.-ผู้ว่าฯ กระบี่ เกาะติดแผ่นดินไหว ยืนยันไม่กระทบบ้านเรือนปชช. สนามบินเปิดให้บริการปกติ
"ปภ.กระบี่" เร่งตรวจสอบสถานที่สำคัญ-บ้านเรือนปชช. หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
เพจมิตรเอิร์ธ ยืนยัน "แผ่นดินไหวกระบี่" ไม่ทำให้เกิดสึนามิ แต่ต้องโพรง-ถ้ำหินปูนใต้ดินทรุดตัว เตือนปชช.เฝ้าระวัง
เปิดนาที แผ่นดินไหว เขย่ากระบี่ ขนาด 3.5 รับรู้ได้แรงสั่นสะเทือนถึงตึกศาลากลาง
เชียงใหม่คึกคัก! "ปชช.-นทท." เนืองแน่นเล่นสาดน้ำสนุกสนาน รอบคูเมืองรถติดตลอดสาย
เอาจริง ตำรวจจราจร สน.ชนะสงคราม จับรถบรรทุกน้ำเล่นสงกรานต์ แจ้ง 3 ข้อหาเอาผิด
ตร.เตือนเข้ม “เมาแล้วขับ” ถูกจับซ้ำ รับโทษสูงขึ้น ยอดจับกุมช่วงสงกรานต์พุ่ง 11,801 ราย
"ปราชญ์ สามสี" กระตุกเสียงวิจารณ์ รทสช. หนุนเป็นพรรคร่วมฯ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในรัฐบาล
พินาศกลางดึก! “อิสราเอล” สาดขีปนาวุธถล่ม รพ.กาซา จนท.อพยพคนไข้วุ่น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น