“ทนายบอสพอล” เผย “นักร้องสาว ก.ไก่” รีด 10 ล้านบาทจริง แถมจ่ายสดเพิ่มอีก 4 แสนบาท 

ทนายบอสพอลเผย นักร้องสาว ก.ไก่ รีด 10 ล้านจริง แถมจ่ายสดเพิ่มอีก 4 แสน ส่วนตัวมั่นใจหลักฐานสู้คดี พร้อมฝากถึง สคบ. หากเพิกถอนใบอนุญาติ เตรียมเดินหน้าเอาผิด ตามป.อาญา มาตรา 157

“ทนายบอสพอล” เผย “นักร้องสาว ก.ไก่” รีด 10 ล้านบาทจริง แถมจ่ายสดเพิ่มอีก 4 แสนบาท – Top News รายงาน

ทนายบอสพอล

 

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เวลา 15.23 น. ที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้เดินทางเข้าเยี่ยมบอสพอล โดยเปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่ได้เยี่ยมบอสพอล เนื่องจากติดปัญหา เรื่องเอกสารธุรการที่ฝากเซ็นไว้ แต่ตนได้ไปเยี่ยมบอสปันแทน และไหว้วานให้ทนายความของบอสปีเตอร์ เข้าไปเยี่ยมบอสพอลและพูดคุยกับบอสพอล เพื่อนำเข้ามูลที่ได้มาเล่าให้ตนฟัง ซึ่งได้มีการอัพเดทกันในเรื่องของแนวทางต่อสู้ทางคดี ว่า หลังจากนี้จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งทนายความจะมีการประสานร่วมกัน พบว่าทั้งบอสหญิงและบอสชายสามารถปรับตัวที่จะอยู่ภายในได้

จากการสอบถามทนายความของบอสปีเตอร์ พบว่า บอสพอล มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง พูดคุยกับเพื่อนๆทุกคนอย่างปกติ ส่วนตัวมีความเป็นห่วงสุขภาพของบอสวินมากกว่า เนื่องจาก พบว่า เป็นโรคมะเร็ง ซึ่งก็จะต้องมีการหาวิธีการประกันตัว ทำเรื่องย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หากหมอได้ตรวจแล้วระบุว่า ยังสามารถอยู่รักษาได้ ก็ให้อยู่ต่อไป สำหรับบอสพอลนั้น ไม่กังวลใจหากจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ตนพูดคุยกับลูกความเสมอว่า การต่อสู้คดีหากข้อหาหลักรอด ข้อหารองที่ตามมาทีหลังก็ไม่มีผล

นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ ยังบอกว่า ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจ ในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการออกใบพีโอ มีการซื้อขายจริง จ่ายเงิน มีสินค้าจริง ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่า จะว่าอย่างไร ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่า มีการชักชวนคนมาร่วมลงทุน ก็ยืนยันว่า เป็นการชักชวนให้มาเปิดบิลสั่งซื้อสินค้า

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับตอนนี้ บริษัทดิไอคอน ยังเปิดให้ลงทะเบียน จนถึงวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบว่า ใครเป็นผู้เสียหาย ที่เราควรจะเยียวยาได้หรือไม่ได้ เพราะขณะนี้บัญชีถูกอายัดอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการยื่นอุทธรณ์การอายัดทรัพย์จากปปง.หรือไม่ขอให้มีการปรึกษากับทีมทนายความก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ตำรวจยังไม่มีการประสานผ่านตนเข้ามาเพื่อที่จะขอคุยกับผู้ต้องหา ส่วนกรณีที่มีบุคคลอ้างว่า เป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวตามสื่อ ทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้มีความกังวล

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า เรื่องคลิปเสียงระหว่างบอสพอลกับผู้ที่เรียกรับประโยชน์ไม่ถือว่า เป็นคุณและเป็นโทษต่อผู้ต้องหา ส่วนกรณีมีนักร้องเรียนตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้านบาท โดยเฉลยว่า บุคคลดังกล่าวคือนักร้องเรียนหญิง อักษรย่อ ก.” ก่อนจะบอกว่า “รู้กันอยู่แล้ว ไปเช็คก็รู้ว่าใคร”

 

ตนเองก็ทราบรายละเอียดเชิงลึกในข้อนี้ เนื่องจาก มีพยานบุคคลยืนยัน โดยจ่ายเงินสดก้อนแรก 10 ล้านบาท และอีกก้อน 4 แสนบาทเป็นเงินสดเช่นกัน ช่วงที่ตบทรัพย์เกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจำเดือนชัดเจนไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจ่ายไป 10 ล้านบาท เนื่องจากในวงการตบทรัพย์ ก็จะเป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า ต้องจ่ายก้อนเดียวทั้งนั้น แต่ก็มีมาขอเพิ่มอีก 4 แสนบาทเป็นเงินสด ซึ่งก้อนนี้อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร ค่าปริ้นท์งาน ค่าถ่ายเอกสาร ค่าเหนื่อย  ยืนยันว่ามีคลิปเสียงดังกล่าวจริง

ทนายความบอกว่า สำหรับนักร้องเรียนหญิง อักษรย่อ ก.นี้ มีคนแนะนำ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร โดยจะใช้วิธีการอ้างว่า จะไปร้อง ปคบ. โดยตั้งข้อสังเกตว่า ธุรกิจดังกล่าวเป็นการขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่อะไรทำนองนี้
ส่วนกรณีที่ นักร้องเรียนหญิง อักษรย่อ ก. คนดังกล่าวใช้วิธีการข่มขู่บอสอย่างไรนั้นตนไม่ทราบเพราะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเล่าว่าพฤติการณ์ตบทรัพย์เป็นแบบนักร้องทั่วไป มีการมาขู่ว่า “คุณไม่อยากเดือดร้อนใช่ไหม ไม่งั้นเอามา”

 

ทนายความ ยังระบุว่า การที่ยอมจ่ายเงินตามที่ถูกเรียกร้องไม่ได้เป็นการยอมรับว่าเรามีพฤติกรรมแบบนั้นจริง แต่อยากบอกว่า บางทีคนทำธุรกิจไม่ใช่คนแข็งแกร่ง อย่างลูกความผมบางรายเค้าแข็งแกร่งหากมีการรีดเอาทรัพย์เท่าไหร่ก็ไม่ยอม แต่บางรายก็ไม่อยากมีปัญหาเพราะอาจกระทบกับธุรกิจได้ และไม่เป็นเรื่องเกรงกลัว แต่คนเราทำธุรกิจ ไม่อยากมีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล หากมันจบได้ก็อยากให้จบตรงนั้นมากกว่า

 

นอกจากนักร้องเรียนหญิงคนนี้แล้ว จะมีคนอื่นด้วยอีกหรือไม่นั้นไม่สามรถบอกได้ เพราะเกรงจะลุกลาม แต่ยืนยัยว่าไม่ใช่นักการเมืองแน่ เพราะนักการเมืองเขาไม่ค่อยยุ่ง และตนมีข้อมูลเพียงเท่านี้ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า จะมีนักร้องท่านอื่นมาตบทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหรือไม่ แต่ที่มีข้อมูลตอนนี้นักร้องเรียนหญิง ก. ตบทรัพย์มากที่สุด ส่วนที่เหลือรายละเอียดอยู่กับตำรวจ

สำหรับกรณีที่ สคบ.จะเพิกถอนใบอนุญาติประกอบกิจการของบริษัทนั้น เนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา บอสพอลยังให้การ สคบ. ไม่จบและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. นำหมายเข้าจับกุมก่อน จึงยังต้องให้การเพิ่ม ถ้าวันนี้ยกเลิกใบอนุญาตตลาดตรงของบริษัทฯ ตนฟ้องแน่นอน เพราะตามกฎหมาย บอสพอลยังให้การไม่จบ โดยทางบริษัทต้องให้ปากคำจนเสร็จสิ้นก่อน ถึงเริ่มจะพิจารณาเพิกถอนได้ ถ้าหากพิจารณาแล้วน้ำหนักการร้องเรียนมีมากกว่าสิ่งที่เราชี้แจงจะเพิกถอนก็สามารถทำได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าวันนี้มาบอกว่า จะไม่ฟังข้อมูลเพิ่มเติมและตัดจบตรงนี้แล้วเพิกถอนเลย ก็จะฟ้องดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 157 ฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อถามว่า เป็นการข่มขู่หรือไม่ ทนายวิฑูรย์ บอกว่า ไม่ได้ข่มขู่แต่เป็นไปตามกฎหมาย โดยตอนนี้ สคบ. ยังไม่ได้มีการประสานเข้ามาขอข้อมูลเพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น