BBC และ AFP รายงานว่านายคิม ฮง-เคียน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้เรียกนายจอร์จี้ ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโซลเข้าพบในวันนี้ (จันทร์ที่ 21 ตค.) พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียกดดันทหารเกาหลีเหนือจำนวน 1 พัน 500 นายซึ่งถูกส่งไปฝึกรบที่รัสเซียเดินทางออกจากรัสเซียโดยทันที ไม่เช่นนั้นเกาหลีใต้จะใช้ทุกมาตรการในการตอบโต้
จากข้อมูลของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปฝึกรบที่รัสเซียเพื่อส่งไปช่วยทหารรัสเซียทำสงครามกับยูเครน ขณะที่สื่อเกาหลีใต้เผยว่าเกาหลีเหนือมีแผนจะส่งทหารทั้งหมด 1 หมื่น 2 พันนายไปสู้ศึกยูเครน
ด้านซีโนเวียฟรับปากว่าจะนำเรื่องความวิตกของเกาหลีใต้ไปแจ้งยังรัฐบาลรัสเซียและเกาหลีเหนือ แต่ก็ยืนยันว่าความร่วมมือของรัสเซียและเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ยังไม่เป็นชัดเจนว่าซีโนเวียฟหมายถึงความร่วมมือด้านไหน เนื่องจากทูตรัสเซียไม่ได้ยอมรับหรือยืนยันเรื่องเกาหลีเหนือส่งทหารไปฝึกที่รัสเซีย ขณะที่เกาหลีเหนือเองก็ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าจัดหาให้รัสเซียเพื่อทำสงครามยูเครน แต่จากสถานการณ์ลาสุด เกาหลีใต้ชี้ว่าเกาหลีเหนือล้ำเส้นเกินกว่าแค่ส่งอาวุธ พร้อมชี้ว่าการส่งทหารไปซ้อมรบเพื่อร่วมสงครามยูเครนไม่เพียงคุกคามเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลก
ขณะที่ประธานาธิบดียูน ซุกยอล ของเกาหลีใต้ได้ต่อสายหารือกับนายมาร์ก รุต เลขาธิการนาโต โดยเรียกร้องสมาชิกนาโตให้เร่งหามาตรการตอบโต้ พร้อมประกาศว่าเกาหลีใต้จะยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับยูเครนและนาโตเพื่อเป็นการตอบโต้ ด้านรุตก็เตือนว่าการที่ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมรบกับรัสเซียจะทำให้สงครามยูเครนยกระดับความรุนแรง
ด้านนายเดวิด แลมมี่ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนโซลตำหนิความร่วมมือทางทหารของรัสเซียและเกาหลีเหนือว่าผิดกฎหมายและเป็นความประมาท พร้อมลั่นว่าอังกฤษจะร่วมมือกับเกาหลีใต้ในการตอบโต้ ขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นก็ออกมาร่วมประณาม ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนเรียกร้องทุกฝ่ายเร่งลดการเผชิญหน้า พร้อมเตือนสติให้แก้วิกฤตการณ์ยูเครน
ขณะที่ผุ้เชี่ยวชาญด้านการทหารสถาบันยุทธศาสตร์แห่งชาติเกาหลีชี้ว่าที่เกาหลีเหนือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะทำให้สงครามยิ่งซับซ้อนและดึงให้หลายชาติพันธมิตรเข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้มากขึ้น แต่หลายฝ่ายก็มองการที่ทหารเกาหลีเหนือจะถูกไปแนวหน้าเพื่อเข้าร่วมรบเคียงข้างทหารรัสเซียไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะภาษาเป็นอุปสรรคเป็นสำคัญ นอกจากนี้ทหารเกาหลีเหนือก็ร้างราสงครามมานาน ความเป็นไปได้คืออาจช่วยตรึงกำลังตามแนวพรมแดนรัสเซีย-ยูเครน
