สำนักข่าวทางการเลบานอน รายงานว่า เครื่องบินรบอิสราเอลโจมตีในเขต ดาฮิเยห์ และชานเมือง ทางใต้ของกรุงเบรุตรวม 13 ครั้ง เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ต.ค.) รวมถึงโจมตีจุดหนึ่งใกล้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ราฟิก ฮาิรี โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในเลบานอน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย จำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ราย บาดเจ็บอีก 24 คน
บีบีซี รายงานว่า เวลาประมาณ 22 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น โฆษกกองทัพอิสราเอลประกาศเตือน ประชาชน ให้อพยพออกห่างจากอาคารหลายแห่ง ทางใต้ของกรุงเบรุตเพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้น เพียง 15 นาที ก็เริ่มโจมตี เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ประชาชนแตกตื่นวิ่งหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น
สื่อทางการเลบานอน รายงานว่า จุดที่อิสราเอลโจมตีใกล้โรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ในประกาศเตือนล่วงหน้าว่าจะตกเป็นเป้า หรืออยู่ในคำสั่งอพยพ ด้าน กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า อิสราเอลโจมตีใกล้ทางเข้าโรงพยาบาล ซึ่งเวลานั้น ยังมีการให้บริการและรับผู้ป่วยจำนวนมาก และทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหายพอสมควร
คลิปวิดีโอจากย่านดาฮิเยห์ ซึ่งอิสราเอลเตือนว่าจะโจมตี 7 จุดล่วงหน้า แสดงให้เห็นภาพผู้คนหลบหนีโดยรถยนต์ บางคนก็วิ่งหนีขณะอิสราเอลเปิดฉากโจมตี นอกจากนี้ อิสราเอลยังโจมตีอย่างน้อย 3 ระลอกที่เขต คูไซ ทางใต้ของกรุงเบรุตเป็นครั้งแรก ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินเบรุต ประมาณ 400 เมตรเท่านั้น สื่อท้องถิ่นรายงานภาพอาคารหลังหนึ่งในสนามบิน กระจกหน้าต่างแตกกระจาย และทำให้ มิดเดิล อีสต์ แอร์ไลนส์ สายการบินแห่งชาติ ต้องเปลี่ยนรันเวย์ลงจอด เพราะรันเวย์หลักอยู่ใกล้กับการโจมตีที่คูไซ
แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ชานเมืองทางใต้เป็นเมืองร้างมาเกือบเดือน แต่ คูไซ เป็นแหล่งชุมชนที่ยังมีผู้คนหนาแน่น และไม่เคยตกเป็นเป้าโจมตีมาก่อน ทีมกู้ภัยในสังกัดฮิซบอลเลาะห์บอก AFP ว่ากำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในซากปรักหักพังที่นั่น และบอกด้วยว่า อิสราเอลเตือนให้อพยพแล้วก็โจมตีแทบจะทันที ไม่ทิ้งเวลาให้ประชาชนได้หลบหนี
การโจมตีเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ นายอามอส โฮสไตน์ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ เยือนเลบานอน เพื่อหาทางหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ โฮสไตน์ กล่าวว่า แนวทางคลี่คลายความขัดแย้งครั้งนี้ ยังคงต้องยึดมติที่ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่กำหนดให้มีทหารเลบานอนและทหารรักษาสันติภาพยูเอ็น ประจำการทางใต้ของเลบานอน และให้อิสราเอลถอนทหารออกจากดินแดนเลบานอน
โฮสไตน์ กล่าวว่า มติที่ 1701 ประสบความสำเร็จในการยุติสงครามปี 2549 แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ไม่มีการบังคับใช้หรือปฏิบัติตามมากเพียงพอ สิ่งที่จะต้องทำคือสร้างความมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตาม สหรัฐฯต้องการเห็นสงครามครั้งนี้ยุติโดยเร็วที่สุด การผูกอนาคตของเลบานอนกับความขัดแย้งในภูมิภาค ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนชาวเลบานอน ซึ่งพาดพิงถึงการที่ฮิซบอลเลาะห์ตั้งเงื่อนไขหยุดยิงในเลบานอน กับการยุติสงครามในกาซา
โฮสไตน์ กล่าวหลังจากพบหารือกับ นาบีห์ เบร์รี ประธานสภาเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฮิซบอลเลาะห์และ อาห์เหม็ด อาบูล เขต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ ที่กรุงเบรุต ตลอดจน นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ที่กำลังผลักดันหาทางออกทางการทูตโดยยึดมติ 1701 เช่นเดียวกัน โดยเขาบอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเลบานอนพร้อมจะเสริมทหารบังคับใช้มตินี้ หากสามารถหยุดยิงกันได้
