เปิดอีกมุม! ฟัง “แม่ทัพภาค 4” เล่าเหตุการณ์ตากใบ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดย พลโทไพศาล กล่าวว่า คดีตากใบได้ดำเนินคดีแบ่งเป็นดังนี้
-คดีแรก คดีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 6 นาย ถูกแจ้งความในข้อหาแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์ โดยนำปืนของทางราชการไปให้กลุ่มแนวร่วม ศาลได้ตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน
-ปี 2549 ดำเนินคดี 3 คดี ได้แก่ คดีผู้ตายในที่เกิดเหตุ 7 ราย อัยการสั่งงดการสอบสวน เพราะไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ คดีที่ 2 การดำเนินคดีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม 59 คน ศาลสั่งยกฟ้อง เพื่อประโยชน์สาธารณะ และไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง และคดีที่ 3 คดีทางแพ่ง ญาติผู้เสียหายและผู้ได้รับผลกทระทบยื่นฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหาย คดีนี้จบที่ศาล และได้รับการชดใช้
-ปี 2552 คดีเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ศาลสั่งว่าการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ยุติการสอบสวน
-ปี 2566 ได้มีการยื่นฟ้องศาลอีก 2 คดี โดยญาติผู้เสียหายฟ้องเอง และอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง รวม 15 หมาย ผู้ต้องหา 14 คน
แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มิได้เพิกเฉย ทั้งการเร่งรัดการกระจายข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา การตรวจสอบกับสำนักทะเบียนราษฎร์ การแจ้งตำรวจสากล ซึ่งผู้ต้องหาหลายคนเกษียณไปแล้ว มีอยู่ 2 คน ที่รับราชการอยู่ โดยหนึ่งคนเป็นปลัดอำเภอที่จังหวัดนครพนม อีกคนเป็นนายทหารอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ก็ได้ประสานผู้บังคับบัญชานำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังนั้นรัฐไม่ได้เพิกเฉย
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังเล่าถึงเหตุการณ์ตากใบด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ตากใบ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 6 นาย ซึ่งถูกแจ้งความในข้อหาแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์ โดยนำปืนของทางราชการไปให้กลุ่มแนวร่วม ที่ต่อมาศาลตัดสินจำคุก มีการวางแผนตากใบขึ้นมา สร้างม็อบต่างๆมาที่ตากใบ เจ้าหน้าที่เองปฏิบัติตามขั้นตอน นายกฯบอกให้สลายการชุมนุมตามขั้นตอนการสลายม็อบ แต่เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น แล้วต้องใช้กำลัง เพราะถ้าไม่ใช้ จะบานปลาย ทำร้ายโรงพัก ทุบตีสิ่งของ ซึ่งการเตรียมการของฝ่ายตรงข้ามนั้น ได้สร้างเชื้อไว้แล้ว เพราะเคยมีแนวร่วมระดับแกนนำพูดว่า การจุดไฟแห่งการปฎิวัติให้ลุกโชนเราทำสำเร็จแล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่ของประชาชนในการนำเข้าสู่เอกราช นั่นหมายความว่าสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงมากขึ้น มีคนเข้าสู่ขบวนการ สร้างบาดแผลให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เขาทำเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็มีภาคประชาสังคมจากภายนอกมาสอนให้เคลื่อนไหวหรือขบวนการจัดตั้ง แล้วขบวนการก็จะหวังเหตุการณ์เช่นตากใบ เป็นการจุดเชื้อรุนแรงมากขึ้น แล้วก็นำบุคคลต่างๆประชาชนในพื้นที่เข้าสู่ขบวนการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง