ปชน. จ่อเสนอญัตติด่วน ถก “คดีตากใบ” ขอทุกฝ่ายใช้ปากแทนปืน วอนผู้มีอำนาจรัฐอย่าสองมาตรฐาน

พรรคประชาชน จ่อเสนอญัตติด่วนหารือ คดีตากใบ พรุ่งนี้ ขอทุกฝ่าบใช้ปาก-หู สื่อสารกันแทนที่จะใช้ปืน-ความเงียบ พร้อมเรียกร้องเพื่อน สส. ร่วมให้ข้อเสนอแนะ วอน ผู้มีอำนาจรัฐอย่าสองมาตรฐานให้ความสำคัญคดีอื่น

ปชน. จ่อเสนอญัตติด่วน ถก “คดีตากใบ” ขอทุกฝ่ายใช้ปากแทนปืน วอนผู้มีอำนาจรัฐอย่าสองมาตรฐาน – Top News รายงาน

ปชน.

 

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ว่า พรรคประชาชนจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดโอกาสให้สมาชิกมีการอภิปรายหารือเกี่ยวกับทางออกทางการเมืองในโศกนาฏกรรมตากใบ ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของอายุความที่กำลังจะขาดลงของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง

นับจากวินาทีนี้ ที่เรากำลังสนทนากันอยู่ เหลืออีกเพียง 33 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าคำนวณจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของโลก ทั้งจำเลย 7 คน และผู้ต้องหา 8 คน รวมกันแล้วสองสำนวนคดี จำนวน 14 คน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ของประเทศไทย หรือในภูมิภาคอาเซียน สามารถเดินทางกลับมามอบตัวได้ ที่น่าจะเป็นห้วงเวลาสุดท้าย ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่เอง ก็พยายามจับกุมคุมตัวอย่างถึงที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ต้องการสปิริตของผู้ที่ตกเป็นจำเลยและผู้ต้องหาด้วย

เรื่องนี้เราไม่อาจรอได้ เราจึงจะถือโอกาสเปิดญัตติด่วนในเรื่องนี้ เพื่อหารืออย่างเร่งด่วน ว่าหลังจากนี้จะเอาอย่างไร ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบ ก็คงเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นปัญหา หากคดีความนี้ขาดอายุความไป ความชอบธรรมของอำนาจรัฐไทยในความหมายภาพใหญ่ ที่เรากำลังเผชิญหน้าปัญหาความชอบธรรม ความไว้วางใจของประชาชนที่พร่องไป เราจึงต้องหาวิถีทางทางการเมืองต่างๆ ในการโอบรับ โอบอุ้มความรู้สึก ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชนเหล่านั้นไว้

สถานการณ์ชายแดนใต้ เวลานี้ก็ถือว่าคุกรุ่น แบบแผนความรุนแรงหลายกรณีก็เริ่มกลับมา ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เมื่อความชอบธรรมในอำนาจบริหารของรัฐไทยเริ่มเสื่อม ทางกลุ่มผู้ก่อการไม่ว่าจะกลุ่มใด ก็ใช้ช่องว่างเหล่านั้น ในการก่อเหตุ

“ขอเรียกร้องให้ สส.จากทุกพรรคการเมือง ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนนึง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมือง ความชอบธรรมทางการเมืองสำคัญมาก เราจึงควรต้องใช้กลไกรัฐสภาของเราในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองนี้ เราควรต้องใช้ปาก และหู ในการพูด และรับฟัง แทนที่จะใช้ปืน และความเงียบ เรามีพื้นที่ไว้สำหรับการอภิปรายถกเถียง ดึงหลายเรื่องที่อยู่ข้างนอกสภากลับเข้ามาอภิปรายกัน”

ข่าวที่น่าสนใจ

นายรอมฎอน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อเสนอมากมาย ทั้งระหว่างและหลังจากคดีได้หมดอายุความไปแล้ว ว่ารัฐบาลควรทำ และไม่ควรทำอะไร ซึ่งมีข้อเสนอตั้งแต่การแก้ไขกฎหมาย ปรับปรุงระเบียบต่างๆ หรือข้อเสนอให้รัฐบาลทำนั่นนี่ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะนำข้อเสนอเหล่านั้น มานำเสนอต่อที่ประชุม เพื่อให้สภาประมวลข้อเสนอ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาล และงานที่เกี่ยวข้อง

“ครั้งหนึ่งในอดีต ภายหลังเหตุการณ์ตากใบ ไม่กี่เดือน ในสมัยนายกฯ ทักษิณ เคยใช้กลไกสภาในการเปิดอภิปรายภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี 40 เป็นกลไกอภิปรายทั่วไปสองสภา ซึ่งนายกฯ ทักษิณได้ร้องขอให้มีการเปิดอภิปราย โดยใช้เวลากว่า 2 วัน ในการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ซึ่งมีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และข้อเสนอแนะที่นำมาสู่การปฏิบัติได้หลายเรื่อง ผมอยากเห็นว่าวิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว วันนี้เมื่อกระบวนการยุติธรรมของเรา ไม่สามารถเอื้ออำนวยให้กับประชาชนได้ เราก็ควรใช้พื้นที่ทางการเมืองแบบนี้”

ทั้งนี้ จะเป็นไปไม่ได้ หากขาดความร่วมมือของ สส.พรรคต่างๆ อยากเรียกร้องและโน้มน้าวเพื่อนสมาชิก ให้มาเห็นชอบด้วยกัน รวมถึงเสนอแนะเรื่องต่างๆ ขณะเดียวกัน ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อส่งสัญญาณให้กับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า พวกเรา สภาแห่งนี้ พรรคการเมืองหลายพรรค ใส่ใจ แยแส ต่อปัญหาความทุกข์ยากของท่าน

นายรอมฎอน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงคดีตากใบว่า “ขอให้รอปาฏิหาริย์” ตนมองว่าท่านคงคิดตอนนั้น ไม่ได้ระวัง ยิ่งพูดแบบนั้นคนก็ยิ่งโกรธ ซึ่งตัวของรัฐมนตรีก็อยู่ในรัฐบาล มีอำนาจ คนก็มองว่าคงจะทำอะไรได้มากกว่านี้

หากผ่านวันที่ 25 ต.ค. อายุความหมดไปแล้ว ความรุนแรงในภาคใต้จะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายรอมฎอน ย้ำว่า อยากให้ใช้ปากแทนปืน ยิ่งสื่อสารมากเท่าไหร่ความรุนแรงก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ไม่ว่าจะกลุ่ม BIN ก็ต้องมีวิธีการพูดเจรจา ตนจึงอยากย้ำว่า งานนี้ไม่ใช่เรื่องของใคร พรรคไหน แต่เป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือกัน

 

ซึ่งวันนี้ คณะกรรมาธิการก็ได้เชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ก็ไม่ได้มาร่วมประชุม ตนอยากพูดคุยกับนายภูมิธรรม จริงๆ สิ่งที่พูดออกไปอาจคลาดเคลื่อน คนในพื้นที่ก็จะได้สื่อสาร และพูดถึงสิ่งที่เขาต้องการ

“เรื่องนี้ไม่ใช่แค่คนมุสลิมที่กังวล แต่รวมถึงคนพุทธด้วยเช่นกัน หากรัฐบาลไม่จริงใจผลกระทบก็จะตกที่พวกเขา ในอดีตที่ผ่านมาคนเหล่านั้นเคยเจอมาแล้ว คนที่เปราะบางก็เป็นผู้รับกรรม คนถืออำนาจรัฐควรใจใหญ่กว่านี้ ควรใช้โอกาสนี้ในการพลิกวิกฤต ต้องรอดูพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) ว่าจะมีการอภิปรายอย่างไรต่อในสภาบ้าง

เมื่อถามว่า ควรจะต้องมีตัวแทนจากรัฐบาล ลงพื้นที่ให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายหรือไม่ นายรอมฎอน กล่าวว่า ก่อนนี้ นางอังคณา นีลไพจิตร สว. ก็อยากเชิญนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้หญิงด้วยกันไปฟังปัญหาด้วย ไปดูว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ความยุติธรรมสำคัญกับคนเหล่านั้นแค่ไหน ส่วนการลงพื้นที่ ตนเห็นว่า สส. ก็ควรลงไป แต่คนที่มีอำนาจรัฐ ควรทำอะไรได้ดีกว่านี้ ให้ดูว่ารัฐบาลแคร์เขาบ้าง ขณะนี้เหลือ 33 ชั่วโมงสุดท้าย ไม่รู้จะเป็นปลายเหตุตรงไหนแล้ว จากนี้ไปคือการรับมือความรู้สึกของผู้คน

มองว่ารัฐบาลใส่เกียร์ว่างในเรื่องนี้หรือไม่ นายรอมฎอน ระบุว่า หลายคนก็คาดหวังมากกว่านี้ บังเอิญตอนนี้ก็มีหลายคดีที่ให้เปรียบเทียบในประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่กรณีที่สำคัญกับประชาชนกลับได้รับกันคนละแบบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“กฤษอนงค์” แจงปมเรียกรับเงิน 2 ทาง ยืนยันเป็นเพียงแผนงาน ยืดอกขอรับผิดคนเดียว อย่ายุ่งครอบครัว
"ภูมิธรรม" รับ "บอสพอล" เคยอบรมกำลังพลจริง ยันไม่เกี่ยวข้อง "ดิ ไอคอน"
"นิพนธ์" ซัด ยุติธรรมไทยล้มเหลว ปล่อย "คดีตากใบ" ขาดอายุความ ชี้ไม่สร้างความเชื่อมั่น อย่าหวังแก้ไฟใต้
DSI เร่งตรวจสอบนาฬิกาหรู "บอสพอล" ชี้หากเป็นของปลอม ก็ถือเป็นทรัพย์สินมีค่า
จีนเปิดบริการ ‘โดรน’ ส่งของภายใน 10 นาทีที่เซินเจิ้น
สภารัสเซียมีมติรับรองข้อตกลงปกป้องเกาหลีเหนือ
ด่วน ! พบรถผู้ต้องสงสัย เหตุชิงทองแล้ว พบผู้ก่อเหตุทิ้งขวดนมลูก รองเท้าลูกไว้ในป่า
พ.ต.อ.ยันไม่เกี่ยว "ดิไอคอน" หลังโผล่ขึ้นเวที ยันไร้เจตนาทำภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย
“ศธ.” เปิดตัว NSOT Service ระบบบริหารกิจการ-ฝึกอบรมลูกเสือ ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
"กกต." แจงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน “ทักษิณ-6 พรรค”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น