ข่าวที่น่าสนใจ
เช็กสัญญาณความเป็นเอกภาพหรือไม่เป็นเอกภาพพรรคร่วมรัฐบาลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 และ 25 ตุลาคม นี้ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันในประเด็นสำคัญ คือ รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม
เช็กท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศจุดยืนและมติพรรค นำโดย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอยืนยันในจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่รับร่างและโหวตไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ เพราะรายงานมีความไม่สมบูรณ์ และเป็นรายงานแบบปลายเปิด ทางพรรครวมไทยสร้างชาติต้องการปิดประตูการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แนวทางเพื่อพิจารณาดำเนินการอาจจะสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลได้ในอนาคต
สอดคล้องกับท่าทีของพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอยืนยันหลักการเดิมคือไม่แตะเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการพิจารณาดังกล่าวเป็นแค่ผลการศึกษา หลายพรรคการเมืองได้สอบถามดู เห็นว่า หลายเรื่องยังไม่มีความชัดเจน จึงขอสงวนสิทธิ์เอาไว้
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ถือเป็นความขัดแย้งในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นความเห็นต่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย เราอยู่รัฐบาลเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง แต่ถ้าสิ่งใดเป็นประโยชน์สูงสุดแก่บ้านเมือง และประขาชน เราจะต้องยึดถือเรื่องนั้นเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้และสามารถทำงานได้ตลอด แต่ในทางกลับกัน หากเห็นตรงกันทุกเรื่องก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี
เช่นเดียวกับจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ย้ำชัดว่า ผลจากรายงานและข้อสังเกตของกรรมาธิการฯ หากผ่านสภาจะไปเป็นสารตั้งต้นในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามความผิดในมาตรา 110 และมาตรา 112 ได้ และหากสภาเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ สภาอาจกลายเป็นตราประทับความชอบธรรมในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามมาตรา 110 และมาตรา 112 ในอนาคตได้ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้
ขณะที่ซีก “พรรคเพื่อไทย” มีแนวโน้ม โหวตรับ “รายงานศึกษานิรโทษกรรม” ฟังน้ำเสียงจาก “อดิศร เพียงเกษ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย โหวตไม่รับรายงานฉบับนี้เอง ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน จะตั้งอยู่บนบ่าได้หรือเปล่า คาดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาได้ รายงานดังกล่าวเป็นแค่แนวทางศึกษา ไม่ใช่ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถ้าสภาไม่รับรายงานฉบับนี้เท่ากับชกลม เสียเวลา เสียงบประมาณไปฟรีๆ
“อดิศร เพียงเกษ” กล่าวว่าข้อสังเกตของกรรมาธิการไม่ได้ชี้ชัดจะให้มาตรา112ไปทางไหน แค่เสนอแนวทาง 3 ข้อคือ 1.ให้รวมคดีมาตรา112 ในการนิรโทษกรรม 2.ไม่ให้รวมคดีมาตรา 112ในการนิรโทษกรรม 3.ให้รวมคดีมาตรา112 ในการนิรโทษกรรม แต่ต้องมีเงื่อนไขกำกับ ถ้ารายงานผ่านสภา ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่าเอาเงื่อนไขมาตรา112 มาเป็นเหตุให้การทำผิดคดีการเมืองอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับมาตรา112 ไม่ได้รับนิรโทษกรรม เพราะไม่ได้มีแต่คดีมาตรา112 แต่ยังมีเรื่องอื่นด้ว
เช่นเดียวกับ “สมคิด เชื้อคง” กรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงเสียงโหวตระหว่าง คว่ำ หรือ รับรายงานร้อน เสียงโหวตก้ำกึ่งสูสี แต่น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ได้ ถ้าเสียง “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคประชาชน” ให้ความเห็นชอบอย่างพร้อมเพรียงก็มีเสียงเกินครึ่งของสภาฯ น่าจะผ่านได้ ถ้าเพื่อไทยโหวตไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องแปลก อย่างไรก็ตามแม้จะโหวตไม่ผ่านก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส ไม่เป็นไรถือว่าเสียหน้าทุกพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทยกรรมาธิการมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง ถ้าไม่ผ่านเท่ากับไม่เชื่อใจกรรมาธิการตัวเอง
ไม่ต้องกล่าวถึงท่าที “พรรคก้าวไกลเดิม หรือ พรรคประชาชน หนุนเต็มสูบ นิรโทษกรรมปล่อยผีคดี 112 “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรค ถึงกับกล่าวว่า การที่จะโหวตควํ่ารายงานฉบับนี้ อาจเป็นการกลัวบางอย่างมากเกินไป อย่างที่บอกว่าเล่มรายงานฉบับนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากกรรมาธิการ ซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรค และเป็นเพียงแค่ผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดว่าจะจัดการปัญหาในส่วนนี้อย่างไร ฉะนั้น ไม่มีความจำเป็น หรือเหตุผลใดที่พรรคการเมืองใดจะโหวตไม่รับเล่มรายงานฉบับนี้
ขณะที่ แกนนำม็อบ 3 นิ้ว แนวร่วมพรรคส้มชะตากรรมร่อแร่ แต่ละคนถูกดำเนินคดี 112 ยาวเป็นหางว่าวเพราะกระทำผิดซ้ำ อาทิ “อานนท์ นำภา” 25 คดีติดคุกในเรือนจำ , “พริษฐ์ ชิวารักษ์” หรือ “เพนกวิน” 14 คดี ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ , “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก หนีคดีไปกบดานต่างประเทศ , “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 10 คดี , เบนจา อะปัญ 8 คดี , ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล 3 คดี หรือ “ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง อดีตแกนนำม็อบ3 นิ้ว กลับใจยอมรับคำสารภาพ 8 คดี เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
