รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิเคราะห์ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับร้านน้ำพริกนิตยา เนื้อหาสำคัญ ระบุว่า ปรากฏการณ์ของร้านน้ำพริกนิตยา ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ศรีพันวา ห่อหมกคุณแม่คุณม้า อรนภา ขนมเปี๊ยป๋าเทพ และอีกหลายๆธุรกิจ ที่ถูกกลุ่ม 3 นิ้ว หรือเสื้อแดงโจมตี เรียกร้องให้แบน และปรามาสว่าจะต้องเจ๊ง ทุกครั้งที่ธุรกิจใดถูกกลุ่ม 3 นิ้วโจมตี จะเป็นข่าว และมีการรุมถล่มกันมาก แชร์กันมาก
คนที่ไม่เคยรู้จักก็ได้รู้จัก และอยากไปลอง คนที่รู้จักอยู่แล้วแต่ลืมนึกถึงอย่างผมก็ได้นึกถึงและกลับไปรำลึกกันใหม่ ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่มีใจเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นใครหรือกลุ่มใดก็ได้ เขารู้สึกว่า ธุรกิจเหล่านี้ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มเสื้อแดง และกลุ่ม 3 นิ้ว ไม่ได้โจมตีธุรกิจเพราะธุรกิจนั้นทำอะไรที่ขัดต่อหลักจริยธรรม หรือทำอะไรที่เป็นผลเสียต่อส่วนรวม แต่โจมตีเพราะไม่พอใจ หรือไม่ตรงกับความเชื่อของตัวเอง บางครั้งไม่พอใจลูก ก็ไปเล่นงานธุรกิจของแม่ หรือของครอบครัวเขา ฟาดหัว ฟาดหาง ออกฤทธิ์ออกเดช พวกแนวร่วมก็จะออกมาช่วยโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคาย แช่งให้ธุรกิจเขาล้มบ้าง เรียกร้องให้แบนบ้าง ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นได้รับความเห็นใจจากผู้ที่มีใจเป็นธรรม เขาจึงออกมาช่วยปกป้อง ช่วยสนับสนุนธุรกิจที่เขารู้สึกว่ากำลังถูกรังแก นี่จึงเป็นสาเหตุที่สำคัญ
รศ.หริรักษ์ ระบุอีกว่า ที่น่าแปลกคือ ปรากฏการณ์ทำนองนี้ในอดีตไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่แน่ใจว่าที่เกิดขึ้นในยุคนี้ เพราะสื่อสมัยใหม่ที่ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเองที่จะแสดงอะไรก็ได้ต่อสังคม หรือเป็นเพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ที่เราเรียกว่า “tribalism” หรือเป็นเพราะทั้ง 2 สาเหตุ จะอย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้รังแต่จะทำให้ความแตกแยกระหว่างคนไทยกันเอง ร้าวลึกขึ้นทุกวัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป วันหนึ่งจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรง เลือดตกยางออก ซึ่งวันนี้ก็ใกล้จุดนั้นมากขึ้นทุกทีแล้ว ก็ได้แต่ขอให้ทุกคนนำหลักพุทธศาสนามาใช้กันให้ได้ทุกคน นั่นคือ การเจริญสติ ก่อนจะทำอะไรก็ตามก็ขอให้มีสติ ให้รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลที่เกิดขึ้นตามมาคืออะไร หากทำได้ ทุกอย่างจะดีขึ้นเองก่อนทิ้งท้ายด้วยคำว่า สตินะครับ ไม่ใช่ “สภาพ”