รวบสาวไทย ขับเบนซ์รับ “ชาวจีน” หลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เป้าหมายปลายทางกทม.

รวบสาวไทย ขับเบนซ์รับ "ชาวจีน" หลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เป้าหมายปลายทางกทม.

Top news รายงาน วันนี้ (30 ต.ค.) พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายลับในประเทศกัมพูชาว่า จะมีชาวจีนลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต เข้ามาในประเทศไทยเพื่อลักลอบเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยจะมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น C300e สีดำ ทะเบียน 3 ขง 25 กรุงเทพมหานคร มารอรับที่หน้าห้างสรรพสินค้าสตาร์พลาซ่า หน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังรับการแจ้งจึงประสาน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว และได้มีการสั่งการไปยัง พ.ต.ท.อมรศักดิ์ แสงวรรณ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว และ พ.ต.ท.พฤกษ์ โชติพฤกษ์ชูกุล สว.ตม.สระแก้ว ให้สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก และ ร.ต.ท.ประะเพียร สีหาโบราณ ร.ต.ต.ไพฑูรย์พูลชาติ ด.ต.ธีระพล หอมจำปา สายตรวจจราจร และชุดสืบสวน สภ.คลองลึก รวมทั้ง ร.ท.ถาวร บุญเพ็ง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1302 ร่วมกันออกลาดตระเวนและเฝ้าระวังพื้นที่เป้าหมาย

กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตรวจพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น C300e สีดำ ตามที่ได้รับแจ้งกำลังขับออกมาจากห้างสรรพสินค้าสตาร์พลาซ่า เพื่อเลี้ยวขึ้นถนนสายบายพาส (ถนนอ้อมเมืองอรัญประเทศ) มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงนำกำลังสกัดจับที่สี่แยกไฟแดงท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ

 

 

 

 

ภายในรถพบ น.ส.สุทธิฉันท์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นคนขับ และมีนายเฉิน วังซั่ว อายุ 28 ปี ชาวมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน นั่งอยู่ภายในรถ จากการตรวจสอบพบมีพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ไม่มีรอยตราประทับเข้าประเทศไทย จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คนพร้อมรถเบนซ์ของกลางไป สภ.คลองลึก เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบประวัติ นายเฉิน ว่ามีการกระทำความผิดก่อนหลบหนีออกนอกประเทศจีนหรือไม่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการจีนเทาในประเทศไทยหรือไม่

 

เบื้องต้น น.ส.สุทธิฉันท์ อ้างว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างขับรถมารับ นายเฉิน วังซั่ว ซึ่งเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ตามจุดนัดหมายเท่านั้น

ส่วน นายเฉิน วังซั่ว ยอมรับว่าได้เดินทางจากประเทศจีนไปประเทศเวียดนาม ก่อนจะเดินทางมาประเทศกัมพูชาเพื่อลักลอบข้ามชายแดนมายประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเดินทางไปหาเพื่อนในกรุงเทพฯ และยังยอมรับว่าได้เสียเงินเป็นค่านำพา และค่าเดินทางให้นายหน้าชาวกัมพูชามากถึง 250,000 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น