หลังเวลาผ่านไปถึง 8 ปี จนมีการรื้อฟื้นคดี จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ จ.สุพรรณบุรี นำตัวส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยตลอดชีวิต แต่จำเลยยื่นอุธรณ์ ต่อมาศาลอุธรณ์ได้พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตเหมือนกัน และจำเลยได้ยื่นฏีกา และศาลฏีกาได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

โดยตั้งแต่เช้าเวลา 08.00 น.ที่หน้าศาลจังหวัดสระแก้ว ทางมูลนิธิกระจกเงานำโดยนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้นำนายสมศักดิ์ ยอดพะเนา อายุ 65 ปี ชาว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว บิดาของผู้เสียชีวิต มาร่วมฟังคำพิพากษา โดยนายสมศักดิ์ฯ ได้นำรูปของ น.ส.มยุรี หรือน้องหลิว ยอดพะเนา บุตรสาวที่ถูกฆาตกรรมมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าขณะนี้ นายจุมพล สุภาพงษ์ หรือ ผอ.ตุ๊ จำเลยในคดีนี้ได้ถูกย้ายไปคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดระยอง โดยศาลจะใช้ระบบ วีดิโอ คอนเฟอเร้นท์ จากเรือนจำจังหวัดระยอง มารับฟังคำพิพากษาของศาลฏีกา จังหวัดสระแก้ว

จนกระทั่งเวลา 10.10 น.นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ได้เดินลงมาจากศาล หลังศาลฏีกาอ่านคำพิพากษาแล้ว โดยนายสมศักดิ์ฯ บอกว่า รู้สึกดีใจที่ศาลให้ความยุติธรรม โดยศาลฏีกา ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์ คือให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตและให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำร้องเป็นเงิน 1,700,000 บาท

ซึ่งนายสมศักดิ์ฯบอกว่าส่วนค่าสินไหมไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าเนื่องจากจำเลยยังติดคุกอยู่ คงต้องให้มูลนิธิกระจกเงาดำเนินการต่อ

จากนั้นนายสมศักดิ์ฯได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อบอกนางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา ภรรยาและเป็นมารดาของน้องหลิวซึ่งป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโคกสูง อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว ว่าศาลฏีกาได้ให้ความยุติธรรม แก่น้องหลิวแล้ว ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของคดีนี้แล้ว