ตำรวจโคราชรวบแก๊งขโมยเครื่องสูบน้ำกว่า 27 เครื่องสารภาพขโมยมา 5 อำเภอนำเงินไปเที่ยวเตร่สถานบันเทิง

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์  ด่านสุวรรณ์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์  คงศักดิ์ตระกูล  ผกก.สภ.สีคิ้ว ได้ร่วมแถลงจับกุมแก๊งขโมยเครื่องสูบน้ำของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจสภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยได้จับกุมนายเพชรสุพล   ชำนิ           อายุ  43ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.9   ต.หนองตะไก้    อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา และนายสนธยา     มะนาวนอก  อายุ  34ปี อยู่บ้านเลขที่ 55  ม.9 ต.หนองตะไก้                อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา พร้อมของกลางเป็นเป็นเครื่องยนต์สูบน้ำ ยี่ห้อคูโบต้า และยันมาร์ จำนวน 27 เครื่อง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการขโมย

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันประกอบเหตุลักทรัพย์เครื่องยนต์สูบน้ำคูโบต้า ที่บริเวณคลองน้ำตะคลอง (หลังโรงน้ำแข็งกรเดช) ม.10 บ้านทับม้า  ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา จริง  โดยมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุคือ ผู้ต้องหาทั้งสองคนจะร่วมกันตระเวนหาเครื่องสูบน้ำตามลำคลองและคลองส่งน้ำที่มีการทำนา โดยจะขับรถยนต์กระบะตระเวนหาเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา โดยจะทำทีเป็นคนหาปลา ไปปักเบ็ดตามลำคลองหรือคลองส่งน้ำ เมื่อพบเครื่องสูบน้ำที่ตนเองต้องการ ก็จะร่วมกันก่อเหตุในเวลากลางคืน โดยจะขับรถยนต์กระบะคันของกลางหรือรถจักรยานยนต์มาจอดให้ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด จากนั้นก็จะเข้าไปถอดเอาน็อตยึดเครื่องสูบน้ำออกก่อน เพื่อสะดวกในการขนย้าย โดยใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาที จากนั้นจะขนย้ายเครื่องสูบน้ำมาใส่รถยนต์กระบะ โดยใช้เชือกผูกและใช้ไม้ท่อนช่วยกันแบกออกมาจากที่เกิดเหตุ เมื่อได้เครื่องสูบน้ำแล้วก็จะนำไปส่งให้กับผู้รับซื้อในเขตพื้นที่       ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จว.สระบุรี  ในราคาเครื่อง 5,000 – 10,000 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะเลือกก่อเหตุในพื้นที่ที่เครื่องสูบน้ำอยู่ห่างจากบ้านคน และมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำอยู่หลายๆเครื่องรวมกัน เมื่อได้เงินจากการขายเครื่องสูบน้ำมาแล้วจะนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง เพื่อเอาไปเที่ยวสถานบันเทิงและใช้หนี้ที่กู้ยืมมา

ทั้งนี้เจ้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้มีอาชีพกสิกรรมอันเป็นเครื่องมือ เครื่องกล หรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรม มีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร” และได้แจ้งทางกลุ่มผู้เสียหายจากพื้นที่ต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา เข้ามาดูของกลางพร้อมนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับคืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นักเขียนซีไรท์" ชวนให้คิด ถ้า "พรรคส้ม" มีอำนาจ ทำไมอยากยุบ 1 สถาบัน 5 องค์กร
“สุชาติ” รมช. พาณิชย์ ยืนยันไม่ได้หายไปไหน เดินหน้าผลักดันส่งออก ชี้ต้องการทำให้ FTA มีประโยชน์สูงสุด
เหนือ-อีสาน หนาวจัด บางพื้นที่มีน้ำแข็งค้าง 8 จว.ใต้ เจอฝนฟ้าคะนอง กทม.มีหมอกบางช่วงเช้า เย็นสุด 19 องศา
"ปลาหมอคางดำ" แก้เป็นระบบเดินหน้าครบ 5 มาตรการ จบปัญหา หนุนคืนความสมดุลสู่ระบบนิเวศ 
ผลงานชิ้นโบว์แดง "หิมาลัย" เผย "พีระพันธุ์-เอกนัฏ" ผสานกำลังปลดล็อก "โซลาร์รูฟท็อป" ได้สำเร็จ
“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น