“ณัฐวุฒิ” โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน

ณัฐวุฒิ ยันคนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน

“ณัฐวุฒิ” โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน – Top News รายงาน

 

ณัฐวุฒิ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า.. อาวุธสำคัญที่พลังฝ่ายขวาสุดซึ่งพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง ใช้โจมตีทางการเมืองต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาตลอดคือ เรื่องสถาบัน ทุจริตคอร์รัปชันภายใต้ภูมิทัศน์คนดีคนชั่ว และอุดมการณ์ชาตินิยม

ข้อกล่าวหาเรื่องสถาบันพุ่งเป้าใส่รัฐบาลไม่ง่ายเหมือนก่อน คอร์รัปชันก็ทำอะไร 1 ปีของรัฐบาลเศรษฐาไม่ได้ ยิ่งรัฐบาลแพทองธารเพิ่งทำงานไม่ถึง 2 เดือนจะว่าร้ายเรื่องนี้ก็ห่างไกล

วาระนี้จึงเป็นเรื่องชาตินิยม ใช้กรณี MOU44 เชื่อมโยงกับเกาะกูด สร้างแรงกดดันหลายมิติ บางกลุ่มนัดชุมนุมขับไล่ ทั้งที่รัฐบาลนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆนอกเหนือจากที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำไว้ เรื่องทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อน ก็ยังไม่มีการเจรจากันแม้แต่คำเดียว

เทียบเคียงกับการทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร ที่ใช้โจมตีรัฐบาลสมัครข้อหาขายชาติ โดยกลุ่มพันธมิตรฯซึ่งประกอบด้วยคนกลุ่มเดียวกันหลายคนที่กำลังปั่นกระแสเกาะกูดอยู่ขณะนี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

วันนั้นทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งไทยแพ้คดีในศาลโลกไปแล้วตั้งแต่ปี 2505 วันนี้ปกป้องเกาะกูดทั้งที่เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราดมาหลายสิบปี โดยไม่เคยมีประเทศใดทักท้วงทวงสิทธิ์

วันนั้นเรียกร้องให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม(joint communique) วันนี้ให้ยกเลิก MOU44

วันนั้นปลุกกันจนมีคนเดินขบวนเกิดปะทะกับคนในพื้นที่ บานปลายต่อเนื่องถึงขั้นทหารทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากยิงใส่กัน มีการบาดเจ็บสูญเสีย ถือเป็นการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน

ถึงที่สุดเรื่องกลับศาลโลก ปี 2556 ศาลชี้ว่าตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา

ปี 2558 ศาลฎีกาชี้ว่า การดำเนินการของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศขณะนั้น(ซึ่งถูกฝ่ายต่อต้านฟ้อง) ไม่มีความผิด ประเทศไทยได้ประโยชน์จากกรณีดังกล่าว ไม่มีคนรับผิดชอบ ไม่มีใครพูดถึงแถลงการณ์ร่วม(joint communique)นั้นอีก

หรือไม่มีใครสรุปบทเรียนจากเรื่องนี้ ?

วันนี้MOU44 ซึ่งทั้งกระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคง ยืนยันตรงกันว่าไม่ใช่เป็นการยอมรับการอ้างสิทธิ์ทางทะเลของอีกฝ่าย จะถูกใช้เป็นเครื่องมือปั่นกระแสไปถึงไหน  อาเซียนกำลังเนื้อหอม สิ่งที่โลกอยากรู้และต้องการเห็น คือ 2 ประเทศจะบรรลุข้อตกลง นำทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลมูลค่ามหาศาลกว่า 10 ล้านล้านบาทมาใช้ประโยชน์หรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่พิพาทสู้รบชิงดินแดน เพิ่มอุณหภูมิในภูมิรัฐศาสตร์ ทำลายบรรยากาศและความเชื่อมั่นในภูมิภาค

ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น