“ยายวัย 80 ปี” เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี

ยายเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ โดน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บทั้งชีวิต ทั้งเงินผู้สูงอายุ-เงินหมื่นโครงการรัฐฯ สูญกว่า 1 แสนบาท ถึงขั้นอยากจบชีวิต แต่คิดถึงลูกพิการสมอง ไม่มีคนเลี้ยงดู

“ยายวัย 80 ปี” เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี – Top News รายงาน

ยายวัย 80 ปี

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ อสม.ชุมชนคลองเรียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้ประคองร่าง นางเอ นามสมมติ  อายุ 80 ปี ชาวชัยภูมิ นำหลักฐานรุดเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ชัยพร พรหมเสนา สารวัตร (สอบสวน) ว่า วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม อสม.ชุมชนคลองเรียงได้ออกตระเวนเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชนพบว่านางเอ มีอาชีพปลูกต้นดอกมะลิขายหาเลี้ยงชีพเลี้ยงดูลูกสาวที่พิการทางสมองตามลำพัง 2 แม่ลูก ซึ่งอยู่ในอาการอิดโรย มีอาการซึ่งเศร้านั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ในบ้านพักถูก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างตัวเป็นตำรวจระดับ ผกก.ปราบปรามยาเสพติด ใน จ.นครราชสีมา ข่มขู่ว่าตนได้รับพัสดุของกลุ่มค้ายาเสพติด ก่อน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” จะหลอกให้ไปถอนเงินในบัญชีแล้วโอนเงินไปส่งมาให้การตรวจสอบ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางเอ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นหญิง โทรเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ส่งพัสดุ (เคอรี่) บอกว่า มีคนแอบอ้างชื่อตนไปส่งพัสดุใน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพัสดุต้องสงสัย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และจะขออนุญาตเปิดดูสิ่งของภายใน โดยต้องให้ตนต้องอนุญาต

ต่อมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวว่าเป็นนายตำรวจระดับ ผกก.สภ.นครราชสีมา บอกว่า ภายในกล่องพัสดุดังกล่าว พบเป็นยาเสพติด ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดี ตนตกใจกลัว เลยถามกลับไปว่าจะต้องทำอย่างไร แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงโอนสายไปยังคอลเซ็นเตอร์อีกราย ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจระดับ ผกก. และสอนให้ตนแอดไลน์ และได้ขอให้ตนโอนเงินทั้งหมดที่มีในบัญชีไปให้ตรวจสอบ แต่ตนโอนไม่เป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงให้ตนไปถอนเงินในบัญชีธนาคารฯ และโอนผ่านร้านสะดวกซื้อส่งมาให้ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่าเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน และเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินเสร็จจะโอนเงินทั้งหมดกลับคืนไปให้ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำชับว่า ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น

ต่อมาก็เริ่มมีการโอนเงินให้ จนถึงวันที่ 31 ต.ค.67 รวม 4 ครั้ง สูญเงินไป 105,000 บาท โดนเงินทั้งหมดเป็นเงินเก็บมาทั้งชีวิต ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินผู้สูงอายุและเงินหมื่นจากโครงการกรตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลโอนให้ ภายหลังมาทราบว่าโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน ก็มีอาการเครียดจนไม่เป็นอันกินอันนอนถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ยังคิดถึงลูกสาวที่พิการทางสมอง ที่ตนจะต้องเลี้ยงดูอยู่ จึงได้โทรไปปรึกษากับ อสม. ก่อนจะนำตัวมาแจ้งความ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามนำจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และติดตามนำเงินที่คนร้านหลอกเอาไปมาคืนให้โดยเร็วเพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ทั้งชีวิตและต้องใช้เลี้ยงดูลูกสาวที่พิการทางสมองต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น