“เจ๊อ้อย” เปิดใจหลังให้ปากคำเป็นวันที่ 4 พร้อมเอาผิด “ทนายตั้ม” ยืนยันคำเดิม เงิน 71 ล้าน ไม่ได้ให้โดยเสน่หา
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อ 20.50 น. วันที่ 5 พ.ย. 67 ที่หน้าอาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังการสอบปากคำเจ๊อ้อยนานกว่า 10 ชั่วโมง เจ้าตัวได้เดินลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่รู้สึกกังวลที่ทนายตั้มมาเปิดตัวแถลงข่าวในวันนี้ และไม่มีผลใด ๆ กับตนเองทั้งสิ้น และยังไม่ได้ฟังการสัมภาษณ์อย่างละเอียดเพราะอยู่ระหว่างการสอบปากคำตลอดทั้งวัน ส่วนประเด็นอื่นๆไม่ขอพูดถึงและขอให้ทนายความเป็นผู้ให้ข้อมูล ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษและเดินถอยออกจากวงสัมภาษณ์ขึ้นรถตู้ไป เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามในระหว่างที่เจ๊อ้อยอยู่บนรถตู้ว่ายังสู้หรือไม่ เจ้าตัวก็มีรอยยิ้ม และยกมือ 2 นิ้วตามที่ผู้สื่อข่าวถามว่าหากยังสู้ให้ยกนิ้วขึ้นเจ้าตัวก็เพียงแต่ยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มเท่านั้น
ส่วนกรณีที่นายสิทธา เบี้ยบังเกิด กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่าเงินจำนวน 39 ล้านบาท ให้กับแก๊งสแกมเมอร์ เรื่องนี้ทนายความยอมรับว่ามีกรณีของสแกมเมอร์จริง ๆ และมีการโอนเงินยอดดังกล่าวให้กับบัญชีของผู้หญิงชื่อขึ้นต้นด้วยสเสือ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกันคือมีผู้เสียหายคนเดียวกัน ส่วนจะเชื่อมโยงกับคดีอีกคดีหนึ่งยังไงยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนกรณีเรื่องสัญญาว่าจ้างที่ทนายตั้ม อ้างว่าเป็นสัญญาจ้าง และเกิดขึ้นจากความเอ็นดูหรือเป็นลูกรัก เรื่องดังกล่าวต้องมองแยกกัน เพราะในสัญญาระบุว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ไม่ได้ว่าจ้างให้ทำหน้าที่ในการบริหารหรืออย่างอื่น และเรื่องผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่สามารถนำมารวมกันในสัญญาว่าจ้างได้ ทั้งนี้ให้ดูที่สัญญาว่าจ้างว่าได้ระบุไว้อย่างไร ทนายความยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก
ทั้งนี้การดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินคดีใน 2 ส่วนคือความผิดที่เกิดขึ้นกับตัวของเจ๊อ้อย ผึ้งในส่วนนี้ได้มีการให้ปากคำไปทั้งหมดแล้ว แต่ความผิดในเรื่องดังกล่าวยังมีความผิดต่อรัฐที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถแจ้งความเอาผิดได้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าความผิดต่อรัฐเป็นข้อหาเกี่ยวกับอะไร ทนายความยกตัวอย่างว่าอาทิเช่นเรื่องภาษี
นอกจากนี้ยังยืนยันว่า เจ๊อ้อย จะดำเนินคดีกับทนายตั้มให้ถึงที่สุด ส่วนการให้ปากคำวันนี้โดยส่วนตัวเชื่อว่าครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะต้องเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นสีหน้าของเจ๊อ้อยค่อนข้างยิ้มแย้มกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ทนายความเปิดเผยว่า น่าจะเกิดจากความสบายใจที่ให้ข้อมูลต่าง ๆ ไปครบถ้วนทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่ทนายตั้มให้สัมภาษณ์ในวันนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับตัวของลูกความ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น