“ภูมิธรรม” ชี้บิดเบือน MOU 44 ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน บั่นทอนสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

“ภูมิธรรม” ชี้การจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU 44 แล้วทำการบิดเบือน ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน ยัน “เกาะกูด” ยังเป็นของไทย พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสร้างความสับสน หันมาหนุนการท่องเที่ยว“เกาะกูด”กันจะดีกว่า

“ภูมิธรรม” ชี้บิดเบือน MOU 44 ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน บั่นทอนสัมพันธ์ระหว่างประเทศ – Top News รายงาน

 

ภูมิธรรม

 

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai โดยระบุว่า.. “ผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน เมื่อการเมืองบิดเบือน MOU 44 ”
การจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU 44 ในช่วงนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยในหลายมิติ ทั้งการ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ การเจรจาระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะกูด จังหวัดตราด รวมทั้ง การบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น

บันทึกความเข้าใจ MOU 44 คือบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ซึ่งได้มีการเจรจาต่อเนื่องมาทุกรัฐบาล รวมถึงในสมัยที่พรรค พปชร. ซึ่งผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าคณะเจรจา

การหยิบยกประเด็นนี้มาเสนอ ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งทำลายรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ การที่จะมาประกาศตัวเองว่ารักชาติ แต่กลับจุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อล้มโต๊ะการเจรจาที่ดำเนินต่อเนื่องมาทุกรัฐบาล รวมทั้ง กระบวนการเจรจาที่ตนเองเคยมีส่วนร่วม ถามว่าคุณรักชาติจริงหรือ?

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างประเทศในประเด็นเขตแดนและผลประโยชน์ร่วม จำเป็นต้องอาศัยบรรยากาศที่เอื้ออำนวย ข้อมูลทางวิชาการ และความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างคู่เจรจา การสร้างความขัดแย้งหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง จึงเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการเจรจาโดยตรง

ผมได้รับฟังข้อมูล และ คำแนะนำจาก ผู้รู้จริง และนักวิชาการ หลายท่าน เกี่ยวกับ MOU 44 ซึ่งมีคำแนะนำที่น่าสนใจสำหรับพรรคการเมือง หรือ ผู้ที่มีความเห็นต่างกับรัฐบาล ว่าหากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเจรจา ควรนำเสนอผ่านช่องทางที่เหมาะสม เช่น ส่งให้คณะกรรมการเจรจาโดยตรง ไม่ใช่สร้างความสับสนผ่านสื่อสาธารณะ

แต่ก่อนที่โต๊ะเจรจาระหว่างประเทศจะเกิดขึ้น วันนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีของการจุดประเด็นเรื่องนี้ คือ ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะกูด ซึ่งจาก รายงานข่าวของสื่อต่าง ๆ มีข้อมูลที่ตรงกันว่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะกูดที่มีความคึกคักอย่างมาก แต่เมื่อมีกระแสข่าวดังกล่าว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยยกเลิกการจองห้องพัก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย

วันนี้ผมได้มาที่เกาะกูด เพื่อมาดูสถานที่จริงและมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายทหาร
และฝ่ายราชการและผู้นำท้องถิ่น ผมขอให้ความมั่นใจว่า วันนี้เกาะกูด จ.ตราด ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและน่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้ชื่อว่าเป็น“อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว เกาะกูดยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกคลองเจ้า ที่มีพระปรมาภิไธยของรัชกาลที่ 6สลักไว้บนก้อนหิน เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

 

แม้จะมีข่าวสารที่อาจทำให้บางท่านเกิดความกังวล แต่ผู้ประกอบการและชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งหน่วยงานของภาครัฐ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้การท่องเที่ยวในเกาะกูดของทุกท่านมีความปลอดภัยและได้รับพลังบวกกลับไปอย่างแน่นอน
ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสร้างความสับสน และ หันมาร่วมกัน สร้างความมั่นใจให้กับประเทศ และส่งเสริม
การท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะกูดด้วยกัน

โดยยืนยันว่าเกาะกูดยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและปลอดภัย ของประเทศไทยและ มีความ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ การสร้างความขัดแย้งจากข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงครั้งนี้ เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการเมืองที่ขาดความรับผิดชอบ สามารถสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของชาติได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง

ผมคิดว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองวันนี้ ทุกฝ่ายควรใช้ เหตุผลและหันมาร่วมมือกันปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม ของประเทศชาติ มากกว่าการมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว

     

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลเตือนมิจฉาชีพอ้างเป็น “กรมบัญชีกลาง” ลวงดูดเงินประชาชน
สายสีแดง ชวนเที่ยวแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สูดอากาศบริสุทธิ์ สะดวก เดินทางง่าย ติดรถไฟฟ้า
“สาวไทย” โคตรแสบ! ช่วยแฟนผิวสีขนโคเคนเข้าเมือง โดนชาร์จคา ตม.สระแก้ว
‘ผอ.อผศ.’ จัดกิจกรรม นักรบ พบ รด. ปลุกจิตสำนึกเยาวชนต่อความเสียสละของทหารผ่านศึก
ผบช.น. สั่งเอาผิดขั้นเด็ดขาด เก๋งหัวร้อนพุ่งชนไรเดอร์ดับ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก-ค้านประกันตัว
"ปอศ.-สรรพสามิต" บุกยึดบุหรี่เถื่อน ลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
"ตำรวจ" เตือน "Jagat" แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อันตรายหลายจุด
กรมอุตุฯ เผยไทยอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศยังเย็นอยู่  กทม.หนาวสุด 19 องศาฯ
"กรมวังฯ" ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงาน โครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำ จ.ภูเก็ต
"เซเลนสกี" อกแตก "ทรัมป์-ปูติน"ส่งซิกหากัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น