รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยลงพื้นที่เกาะกูดปลอบขวัญและให้กำลังใจชาวเกาะกูดหลังเป็นประเด็นดราม่าว่า“เป็นของกัมพูชา เรียกร้องขอเอกสารสิทธิทำกิน

อ.เกาะกูด จ.ตราด/การเดินทางมาของรองนายกรัฐมนตรีกลาโหม(นายภูมิธรรม เวชยชัย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568) และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย(นายอนุทิน ชาญวีระกุล ที่จะเดินทางมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568)มาที่อำเภอเกาะกูด จ.ตราด หลังจากเกิดดราม่าว่า“อำเภอเกาะกูด”เป็นของกัมพูชา หรือเป็นของไทย และเกิดการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนในส่วนกลางและสื่อโชเชียลจนเกิดความสับสนว่า “เกาะกูด”เป็นของกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่อำเภอเกาะกูดเพื่อติดตามสถานการณ์และได้สัมภาษณ์กลุ่มผู้สูงอายุหลายคนที่อาศัยและเกิดที่อำเภอเกาะกูดมาดั่งเดิมหลายคน และทุกคนยืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย 100%

นายสวงศ์ รำไพ(ก๋ง)อายุ 92 ปี ชาวบ้านคลองมาด ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีระกุล จะเดินทางมาเยี่ยมที่หมู่บ้านนี้ เปิดเผยว่า เกิดที่เกาะกูด และย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองมาด มากว่า 40 ปี มีลูก 7 คน ปัจจุบันเหลือ 4 คน และมีหลานอีกหลายคน ซึ่งอยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ ซึ่งพ่อตายในช่วงอายุ 70 กว่าปี ตอนนั้นตนเองอายุ 30 กว่าปี รวมแล้วก็ 100 กว่าปี ซึ่งสมัยนั้นคนเกาะกูดมีไม่มาก ที่บ้านคลองมาด มีไม่กี่หลัง แล้วก็ขยายเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบ้ายจำนวนมากล้วนแล้วเป็นของหลานเกือบทั้งนั้น นากอบต.ก็เป็นหลาน ผู้ใหญ่บ้านก็เป็นหลาน ดังนั้นเกาะกูดยังเป็นของไทยแน่นอน โดยในสมัยนั้น ยังไม่มีเรือเร็ว แต่ใช้เรือแจวเดินทางติดต่อสื่อสารกัน ชุมชนก็มีน้อย ประชาชนก็น้อย การทำมาหากินก็เป็นการทำเกษตรกรรมและการทำประมง ซึ่งบ้านคลองมาดก็เป็นชุมชนประมง และเป็นลูกหลานของตนเองทั้งนั้น เมื่อเมืองเจริญขึ้น มีการปรับเปลี่ยนอาชีพเป็นธุรกิจเดินเรือเร็วรับนักท่องเที่ยว ธุรกิจนำนักท่องเที่ยวตกหมึก ตกปลา ดำน้ำดูปะการังมากกว่า ประมงพื้นบ้านจึงหายไปมาก

 

 

“เรื่องที่ดินทำกินก็มีการจับจองและนำไปออกเอกสารยิทธิแต่ต้องเสียตัง ส่วนที่ไม่มีตังก็ต้องเก็บไว้ และไม่มีเอกสารสิทธิ ทุกวันนี้ก็ยังทำเอกสารสิทธิไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา เพราะมีมีเจ้าของเป็นของธนารักษ์ และทหารเรือ ยุคนั้นไม่มีทหารเราอยู่กันเองมานาน ปกป้องตัวเอง การที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยมาจึงต้องการให้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนเกาะกูด ผมอยากให้ชาวเกาะกูดมีความรักในแผ่นดินเกิด เราอยู่กันมาเป็น100 ปีแล้วทำไมเอกสารสิทธิเพียงแผ่นเดียวขอไม่ได้หรือไง?“

นางสาวปิยะพร รำไพ เจ้าของสีฟ้ารีสอร์ท เปิดเผยว่า ยอมรับว่า เกาะกูดมีชื่อเสียงมากจากความเป็นธรรมชาติที่สวยงามและเหมาะสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ในปี 2562 เป็นต้นมา 2-3 ปีเกาะกูดไม่มีนักท่องเที่ยวสักคน เราอยู่กันแบบไม่มี เพราะนักท่องเที่ยวที่จะมาต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อน ผู้ประกอบการเดือนร้อน แต่ก็อดทน และผ่านมาได้จากนั้นธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะกูดเติบโตและมีนักท่องเที่ยวกลับมามากกว่นเดิม และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีการจองยาวถึงต้นปีใหม่ 2568 แล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ เอกสารสิทธิในที่ดินของชาวเกาะกูดที่ยังไม่สามารถมีได้ ทำให้การขยายตัวของที่พักทำไม่ได้

“ความจริงเกาะกูดวันนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวมาก นักท่องเที่ยวจำนวนนับแสนคนและสร้างรายได้ให้ชาวเกาะกูดหลายพันล้านบาทต่อปี แต่กลับไม่สามารถขยายที่พักได้ สาธารณูปโภคก็ไม่พร้อมทั้งน้ำ ทั้งไฟ หรือเน็ตสื่อสาร การที่คนรัฐบาลหลายคนมาที่เกาะกูดมาให้ความสำคัญในเรื่องเขตแดนซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นของไทยควรจะให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นอยู่ของชาวเกาะกูดมากกว่า“

 

 

 

ด้านนายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด กล่าวว่า การมีประเด็นของเกากูดในช่วงนี้ มีทั้งดีและไม่ดีซึ่งดีก็คือทุกคนรู้จักเกากูดมากขึ้น แต่ไม่ดีก็คือนักท่องเที่ยวอาจจะรู้สึกไม่เชื่อมั่น แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะเกาะกูดยังเป็นของไทย 100% และแต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเกากูดจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถรองรับได้ห้องพักที่มีเพียง 1,400-1,500 ห้อง
ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการหรือจะมี 3-4 พันห้องก็ยังไม่เพียงพอ แต่วันนี้ทำเพิ่มไม่ได้ เพราะเอกสารสิทธิในที่ดินไม่มี ที่มีก็ยังไม่มีการพิสูจน์สิทธิไม่ได้ ติดค้างอยู่ที่ธนารักษ์ ดังนั้น การที่รองนายกรัฐมนตรี 2 คน และเป็นคนสำคัญของรัฐบาลอยากจะเรียกร้องให้ทั้งสองคนแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยเร็ว รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคของเกาะกูดที่ยังไม่เพียงพอทั้งถนน น้ำประปา หรือ การสื่อสาร ไฟฟ้าที่ยังไม่เสถียรเพียงพอ ล้วนเป็นสิ่งที่ชาวเกาะกูดต้องการให้นชยกระดับเพิ่มขึ้นโดยเร็ว

ทางด้านการเตรียมความพร้อมตอนรับนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น เวล 13.30 น.วันนี้(10 พฤศจิกายน 2567)นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด และนายสุทัศน์ ทศดารา ประธานสภาอบจ.ตราด ได้เดินทางตรวจเยี่ยมบ้านคลองมาด แจ้งให้ชาวบ้านรับทราบ และเตรียมสถานที่ต่างๆให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเข้าไปเยี่ยมนายสวงค์ รำไพ หรือก๋ง สวงค์ ที่เป็นผู้มีอายุ 92 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 1 บ้านคลองมาด ซึ่งยังมีสุขภาพและความจำดี สายตาดี ซึ่งคาดว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล และคณะจะเข้าไปเยีายมและพูดคุยระหว่างมาตรวจเยี่ยมชาวเกาะกูดด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“หนุ่ม กรรชัย” โทรเค้น “ฟิล์ม” 3 รอบ เจอสวนกลับฉุนจัด จนตัดสินใจปล่อยคลิปเสียง
ภูบ่อบิด จังหวัดเลย จุดเช็คอินยอดนิยม หอชมเมืองท่างกลางทะเลหมอก
"รองโฆษกฯ" เผย รัฐบาลคุมเข้ม "เทศกาลลอยกระทง" เน้นย้ำประชาชนปลอดภัย
กระแสกระทงฮิบโปแคระ "หมูเด้ง" มาแรง ขายดีสุด อีกทั้งวัสดุทำกระทงถูกลงกว่าปีที่ผ่านมา
“สุริยะ” กำชับทุกหน่วยงาน เตรียมรองรับปชช.เดินทางลอยกระทง ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเหตุ ตลอด 24 ชม.
องค์การสวนสัตว์ฯ เผยปฏิทิน “หมูเด้ง” เปิดขายแล้ว นอกจากบอกวัน ยังมีใบ้เลขมงคลด้วย
นายกฯ ประกาศมาตรการเครดิตเงินคืนเพิ่ม 30% จากเดิม 20% ดึงถ่ายทำหนังในไทย สร้างงาน-เพิ่มโอกาสให้คนไทยมากขึ้น
อากาศเปลี่ยน เหนือ-อีสานมีหมอก อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศา กทม.ร้อนขึ้นเล็กน้อย
"พิชัย" บินร่วมประชุมเอเปค หารือรมต.การค้า 21 ชาติทั่วโลก พุ่งเป้าขยายลงทุน ขยับยอดส่งออกสินค้าไทย
"3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" ยื่นหนังสือ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แก้ไขปัญหาในส่วนของท้องถิ่น 4 เรื่อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น