ตร.บุกทลาย “เหมืองขุดบิทคอยน์” ดัดแปลงมิเตอร์ลักใช้ไฟฟ้าหลวง สูญกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการ Shut Down เหมืองขุดบิทคอยน์ ดัดแปลงมิเตอร์ลักกระแสไฟฟ้า ทำรัฐเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ตร.บุกทลาย “เหมืองขุดบิทคอยน์” ดัดแปลงมิเตอร์ลักใช้ไฟฟ้าหลวง สูญกว่า 10 ล้านบาท – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกองบังคับการปราบปราม   พลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย นายอุดมศักดิ์ เต็มวงษ์ รองผู้ว่าการสายงานปฏิบัติการระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการเปิดปฏิบัติการ Shut Down เหมืองขุดบิทคอยน์ ดัดแปลงมิเตอร์ลักกระแสไฟฟ้า ทำรัฐเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

โดย พล.ต.ต.มนตรี เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม หรือ บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 9 หลัง ตามหมายค้นของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดของกลาง เป็นเครื่องขุดเหรียญสกุลเงินดิจิตอลบิทคอยน์ จำนวน 111 เครื่องซึ่งกำลังใช้งานอยู่ , คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 7 ชุด , อินเตอร์เน็ต Router จำนวน 10 ชุด , และเครื่องมิเตอร์ไฟฟ้าซึ่งถูกดัดแปลงแก้ไข จำนวน 10 เครื่อง , นอกจากนี้ยังได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับพฤติการณ์ทางคดีนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอาคารพาณิชย์หลังหนึ่งต้องสงสัย ซึ่งอาคารหลังดังกล่าวมีชายวัยรุ่นเช่าไว้แต่ไม่มีผู้เข้าอาศัย พบติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เลยเกิดข้อสงสัยว่า อาจจะเป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ โดยเฉพาะอาจจะเป็นสถานที่ติดตั้งเครื่อง Sim box เพื่อแปลงสัญญาณหลอกลวงผู้เสียหาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่า ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวคือ นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และยังพบว่า ได้เช่าอาคารพาณิชย์และติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้โดยไม่มีผู้เข้าพักอาศัยในลักษณะเดียวกันอีก 6 แห่ง และเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวอีก 2 หลัง รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง พร้อมกันนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อตรวจสอบกระแสไฟฟ้าในบ้านต้องสงสัย ทั้ง 9 หลัง พบมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อรับกระแสไฟฟ้าและอาจนำไปใช้เพื่อเปิดทำงานเครื่องขุดบิทคอยน์ จึงนำมาสู่การขออำนาจศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกหมายค้นบ้านทั้ง 9 จุดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ผลจากการตรวจค้นบ้านทั้ง 9 จุด พบมีการดัดแปลงพื้นที่เพื่อติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์พร้อมระบบระบายความร้อน โดยขณะเข้าตรวจค้นนั้นกำลังเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าและเปิดใช้งานจำนวน 111 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าบ้านทั้ง 9 หลัง ถูกดัดแปลงและมีร่องรอยการแก้ไข เพื่อให้วัดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าความเป็นจริง จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ รวมทั้งยังได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายณัฐพงษ์และนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวในข้อหาลักทรัพย์ได้เวลากลางคืน

เหมืองขุดบิทคอยน์

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าได้เริ่มต้นเช่าบ้านเพื่อติดตั้งเป็นสถานที่ทำเหมืองขุดบิทคอยน์ตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยได้ทยอยสั่งซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์มือสองผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยนายณัฐพงษ์เป็นผู้หาเช่าบ้านเพื่อติดตั้งเครื่องบิทคอยน์ ส่วนนายอาทิตย์ทำหน้าที่ดัดแปลงมิเตอร์เพื่อให้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้าน้อยกว่าความเป็นจริง รวมทั้งรับผิดชอบติดตั้งระบบกระแสไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเครื่องขุดบิทคอยน์ นอกจากนี้ยังพบเส้นทางการเงินของนายณัฐพงษ์ที่พบธุรกรรมต้องสงสัยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2566 ถึงกันยายน 2567 มียอดเงินหมุนเวียน 40 ล้านบาทและนายอาทิตย์ก็ได้รับส่วนแบ่งค่าจ้างจากนายณัฐพงษ์ด้วย

สำหรับมูลค่าความเสียหายนั้น จากการตรวจสอบปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า พบว่าหากไม่มีการดัดแปลงมิเตอร์ เครื่องขุดบิทคอยน์จำนวน 111 เครื่อง จะต้องเสียค่าไฟเดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ฉะนั้น พบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี จึงคาดการณ์มูลค่าความเสียหายได้ 10 ล้านบาท

      

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น