“พ่อน้องหญิง” เปิดใจเล่าย้อนคดีลูกสาว ถูกคนขับรถเทรลเลอร์ทำร้ายเสียชีวิต แต่ “ทนายตั้ม” กลับไปช่วยฆาตกร

พ่อน้องหญิง ที่เสียชีวิตจากคนขับรถเทรลเลอร์ ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ปี 2561 เล่าย้อน เมื่อครั้งทวงความเป็นธรรมให้ลูกสาว โดยทนายตั้มเคยว่าคดีให้ผู้ต้องหา จากฆาตกรรมให้เป็นอุบัติเหตุ เชื่อเวรกรรมตามทันทนายตั้มทำให้คนอื่นเดือดร้อนมาเยอะ

“พ่อน้องหญิง” เปิดใจเล่าย้อนคดีลูกสาว ถูกคนขับรถเทรลเลอร์ทำร้ายเสียชีวิต แต่ “ทนายตั้ม” กลับไปช่วยฆาตกร – Top News รายงาน

กรณีครอบครัวของ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง วัย 19 ปีที่เสียชีวิตปริศนา โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ตกรถเทรลเลอร์ เหตุการณ์เกิดเมื่อปี 2561 ในครั้งนั้น ทนายตั้มได้ไปว่าความให้ผู้ต้องหา โดยทนายตั้มพยายามเปลี่ยนคดีน้องหญิงตกรถให้เป็นแค่อุบัติเหตุ จนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหา แต่ พ่อน้องหญิงเรียกร้องความยุติธรรมไปหาพยานหลักฐานเพิ่ม สุดท้ายศาลอุธรณ์ พิพากษากลับจำคุกตลอดชีวิต

วันนี้ (12 พ.ย.67) ทีมข่าวท็อปนิวส์ ไปพูดคุยกับนายสุบิน ยาวิราช พ่อของ น.ส.นรีกานต์ หรือน้องหญิง เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ทีมข่าวฟังว่า จากเหตุการณ์ที่ลูกสาวตนเองเสียชีวิต พยานหลักฐานทุกอย่างชี้ชัดว่าลูกสาวตนเองถูกฆ่า ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการตกรถบรรทุก แต่ทำให้การของผู้ต้องหาที่บอกว่าน้องหญิงตกรถลงไปเอง ประกอบกับทนายตั้มก็เข้ามาเป็นทนายให้ผู้ต้องหา

พ่อน้องหญิง

จนเมื่อปี 2562 หลังทนายตั้มเข้าว่าความให้ผู้ต้องหา ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอที่จะเอาผิดจำเลยได้ ซึ่งในครั้งนั้นทนายตั้มทนายฝั่งผู้ต้องหา ได้เบิกความพยานที่เป็นหมอ 3 คน ที่ไม่ใช่หมอนิติเวช มาเบิกความต่อศาล ซึ่งการเบิกความของหมอทั้ง 3 คน จะใช้ศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ ที่ประชาชนทั่วไปไม่อาจเข้าใจจนสุดท้าย คำเบิกความ ของพยานฝั่งผู้ต้องหา ทำให้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง

ข่าวที่น่าสนใจ

ตอนนั้น ตนเองและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่เข้ามาช่วยเหลือ รู้สึกผิดหวังและท้อใจ แต่ก็ยอมรับคำพิพากษาของศาล แต่ก็ไม่ลดละความพยายามทวงคืนความยุติธรรมให้ลูกสาว ก็พยายามหาหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ ไปร้องเรียนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 อัยการสูงสุด

จนกระทั่งมีพลเมืองดีรายหนึ่ง นำหลักฐานสำคัญมาให้เป็นแชทข้อความ ของผู้ต้องหา ที่พูดคุยกับเพื่อนลูกสาวตนเอง เนื้อหาว่า ต่อไปจะหาผู้หญิงคนอื่นมาให้อีก ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นดีว่าผู้ต้องหา ให้การเท็จ และมีพฤติกรรมล่อลวงหญิงสาวจะไปกระทำไม่ดีไม่ร้ายมาแล้ว ตนเองจึงนำหลักฐานไปมอบให้กับอัยการสูงสุด ในครั้งนั้น จนนำมาสู่การอุทธรณ์คำพิพากษา เมื่อปี 2563 ศาลอุทธรณ์จึงนำหลักฐานดังกล่าวมาพิจารณา ท้ายที่สุดศาลอุทธรณ์จึงมีคำพิพากษากลับจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหา

พ่อน้องหญิงบอกว่า ช่วงที่ทนายตั้มเข้ามาเป็นทนายให้ผู้ต้องหา ก็เจอกับทนายตั้มอยู่บ่อยครั้งแต่ไม่ได้พูดคุยกัน ตอนนั้นตนเองก็ชื่นชมความสามารถในฐานะทนายหนุ่มไฟแรง ช่วยเหลือประชาชน แต่พอทนายตั้มมาว่าความให้ผู้ต้องหาที่ฆ่าลูกสาวตนเอง ก็เปลี่ยนความคิดไปในทันที คิดว่าทนายตั้มไม่มีจรรยาบรรณ ความเป็นทนายไม่แบ่งแยกผิดถูกชั่วดี คิดแค่ต่อสู้คดีอย่างไรให้ชนะ

อยากฝากถึงทนายตั้มว่า ทำอะไรไว้ก็ขอให้เป็นไปตามผลกรรมที่เขาเคยทำ ตอนนี้เยอะมากที่เขาเจอ ทำอะไรไว้ก็ขอให้ได้รับผลกรรมไปตามนั้น ก็ขอให้เป็นไปตามกรรมของการกระทำ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น