“ทนายรณณรงค์” เผยไม่ห่วง “ทนายตั้ม” หลังปรับตัวได้ เชื่อนายนุ คือพยานปากเอก คดี 39 ล้าน รับอับอายที่เคยออกมาร่วมทีมทนายดรีมทีม

"ทนายรณณรงค์" เผยไม่ห่วง "ทนายตั้ม" หลังปรับตัวได้ เชื่อนายนุ คือพยานปากเอก คดี 39 ล้าน รับอับอายที่เคยออกมาร่วมทีมทนายดรีมทีม

Top news รายงาน เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (12 พ.ย. 67) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวถึงกรณีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า ตอนนี้ตนเองไม่ได้รู้สึกเป็นห่วง หลังจากได้พูดคุยกับทนายสายหยุด ว่าตอนนี้ทนายตั้ม สามารถปรับตัวภายในเรือนจำได้แล้ว ไม่ได้คิดสั้น ทำใจได้ว่าจะต้องอยู่ยาว เพราะพูดจากปากตนเองว่า ไม่ต้องให้ทนายความยื่นประกันตัว ในฐานะที่ ทนายตั้ม เป็นทนายความย่อมรู้ว่าคดีในลักษณะดังกล่าวนี้ไม่สามารถประกันได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับการต่อสู้ทางคดีความของทนายตั้มตอนนี้ ทนายสายหยุด ก็ต้องเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง ถ้าเขาบอกว่าเราฉ้อโกง เราก็ต้องสู้คดีว่า เราไม่ได้ฉ้อโกงอย่างไร ส่วนใหญ่ทนายก็จะต่อสู้ว่าไม่ใช่ฉ้อโกง แต่ผิดสัญญาทางแพ่ง มันเป็นรูปแบบการต่อสู้พื้นฐาน ทุกคดีก็สู้กันแบบนี้ ไม่ได้แปลกพิสดาร แต่ก่อนตำรวจแจ้งข้อหาเขาก็สอบปากคำหลายชั่วโมง แสดงว่าเขาต้องเขียนรายละเอียด เพราะบางทีคนรวยจัด วิสัยคนที่มีฐานะเยอะๆ เขาจำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้บ้าง ต้องมานั่งไล่ หรือค้น ทำให้ต้องสอบปากคำนาน ส่วนแนวที่ประกาศมาว่าจะสู้ ตนเองมองว่า แค่ประกันยังยื่นไม่ผ่าน จะไปสู้ได้อย่างไร

ส่วนหลักฐานแชตการสนทนาระหว่างเลขาฯ เจ๊อ้อย กับทนายตั้มนั้น ตนเองได้เห็น แต่มันไม่ใช่การยืม มันมีสตอรี่เรื่องการลงทุน จะเอาแชตที่คุยกันไม่กี่คำมาเป็นสัญญาไม่ได้ การลงทุน 70 กว่าล้าน แต่ไม่มีสัญญาสักฉบับ มันแปลกพิสดาร อย่างไรก็ตาม ข้อความสนทนาในแชตไลน์ดังกล่าว เป็นของเลขาฯ เจ๊อ้อย คุยกับทนายตั้ม ที่คุยไปมาสองฝั่ง ซึ่งข้อมูลตรงนี้มีการอ้างผู้ใหญ่อยู่ในไลน์ด้วย ไม่ใช่การคุยกับเจ๊อ้อยเอง

 

 

เมื่อถามว่า ในแชตนั้นมีสัญญาการจ้างเขียนโปรแกรมหรือไม่ ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าแชตดังกล่าวเกี่ยวข้องกับตัวเงิน 71 ล้านบาท เพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่ ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ใช่ ส่วนคดี 39 ล้านบาท จะต่อสู้คดีอย่างไร เขาก็ต้องมาดูว่า ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเขาอย่างไร วันเวลาเท่าไรที่เขาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ ถ้าตำรวจมีหลักฐานปรากฏว่าเขาอยู่ในประเทศ ก็เอามายืนยัน และถ้าเขามีหลักฐานว่า เขาไม่อยู่ประเทศก็เอามายืนยัน ก็มีโอกาสที่จะหลุด

ส่วนที่บอกว่ามีหลักฐานเด็ดจะพลิกคดีได้ ตนเองยังไม่เห็นเลย การจับนายนุ กับนางสาวสารินีนั้น ตนเองมองว่านายนุ คือพยานปากสำคัญที่สุดแล้ว คดีจะพลิกหรือไม่ ก็อยู่ที่นายนุ ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้านายนุ เชื่อทนายตั้ม คดีก็ยาว ถ้าไม่เชื่อก็อาจจะไวหน่อย

 

ส่วนทิศทางการต่อสู้คดีของทนายตั้มนั้น ประเมินว่า ในเรื่องของการประกันตัวไม่น่าจะประกันตัวได้ มันต้องทำใจรับสภาพ พรุ่งนี้ครบหนึ่งเดือนที่เหล่าบรรดาทนายนัดกันไปกองปราบฯ เรื่องคดี ดิ ไอคอน ตนเองก็รู้สึกอายเหมือนกัน เพราะคดี ดิ ไอคอน ผู้ต้องหาก็อยู่ในเรือนจำ แต่คนในฝั่งทนายก็กลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำด้วยเหมือนกัน ทั้งที่ห่างกันไม่ถึงเดือน

 

 

มันก็รู้สึกอายเหมือนกัน เหมือนเราเลือกคบคนชั่ว หรือคนไม่ดีมาอยู่ข้างๆ เรา แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการตัดเพื่อน แต่ต้องแยกส่วนที่ทำก็ต้องรับกรรมไป ผิดถูกให้พิสูจน์กันเลย ซึ่งทนายตั้ม ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพียงแต่มีหลายหมายจับเท่านั้นเอง ซึ่งมันปิดประตูด้วยคำพูดว่าให้ด้วยเสน่หา คนเขาก็ถามว่าใครจะให้ขนาดนั้น ถามว่าทนายที่เขามาด้วยเขาเชื่อหรือไม่ เขาแค่ไม่พูดเฉยๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น