พลอากาศตรี แพทริค เอส ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า เรือพิฆาต “ยูเอสเอส สต็อกเดล” (USS Stockdale) และ “ยูเอสเอส สปรูเอินซ์” (USS Spruance) ถูกโจมตีด้วยโดรนและอาวุธปล่อยหลายลูก ขณะแล่นผ่านช่องแคบ “บับ อัล มันเดบ” จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล ระหว่างทะเลแดงกับอ่าวเอเดน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (11 พ.ย.) แต่เรือพิฆาตทั้งสองลำประสบความสำเร็จ ในการสกัดกั้นการโจมตีของฮูตีที่ยิงขีปนาวุธร่อน หรือ ครูซมิสไซล์ต่อต้านเรือ 3 ลูก ขีปนาวุธทิ้งตัวต่อต้านเรือ 5 ลูก และโดรนกามิกาเซ่ 8 ลำ เรือรบสหรัฐฯไม่ได้รับความเสียหายและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านั้น โฆษกฮูตี แถลงเรื่องเดียวกัน โดยอ้างว่า ฮูตียังได้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน อับราฮัม ลินคอล์น ในทะเลอาหรับด้วยอีกหนึ่งลำ นอกเหนือจากเรือพิฆาตสองลำในทะเลแดงที่ฮูตีไม่ได้เอ่ยชื่อ และอ้างว่าการโจมตีประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แต่ ไรเดอร์ โต้ว่า ไม่เป็นความจริง เรืออับราฮัมไม่ได้ถูกโจมตี และปฏิเสธระบุพิกัดเรือ
หลายชั่วโมงก่อนการแถลง หน่วยบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือ เซนต์คอม เผยแพร่คลิป แสดงภาพเครื่องบินรบ ขึ้นบินจากเรือลินคอล์น เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านฮูตี โดยไม่มีความชัดเจนว่า คลิปนี้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีเรือพิฆาตสหรัฐฯสองลำ หรือปฏิบัติการต่อกลุ่มกบฏเยเมนก่อนหน้านั้นหรือไม่
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังเปิดเผยว่า กองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 ปฏิบัติการโจมตีคลังอาวุธฮูตีในเยเมนหลายระลอก เมื่อสุดสัปดาห์ คลังอาวุธดังกล่าวเก็บอาวุธทันสมัยที่ฮูตี ใช้โจมตีสหรัฐฯ ทหารแนวร่วมนานาชาติ และเรือพลเรือนที่แล่นผ่านน่านน้ำสากล
นับเป็นอีกครั้งที่ฮูตีพุ่งเป้าเล่นงานเรือรบสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเยเมน กองเรือรบสหรัฐฯเคยสกัดกั้นการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธอันซับซ้อนของกบฏเยเมนมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปลายเดือนกันยายน
การรับมือกับฮูตีที่โจมตีเรือพิฆาต มีขึ้นหลังจากในวันก่อนหน้า ทหารอเมริกันทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ถูกโจมดีด้วยโดรนและจรวด แต่ไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในวันถัดมา สหรัฐฯตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศพุ่งเป้ากลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังในซีเรีย รวม 9 จุด แต่โฆษกเพนตากอน บอกว่า ยังไม่มีข้อมูลว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือไม่