ส่วนประเด็นคลิปเสียงใหม่ ที่มีการเปิดในรายการโหนกระแส เป็นการพูดคุยสนทนากันระหว่างบอสพอล กับกฤษอนงค์นั้น ซึ่งทางกฤษอนงค์ มีการพาดพิงไปถึงรัฐมนตรีน้ำ หรือ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า มอบหมายให้ดูแล สคบ. ซึ่งเป็นการทำงานโดยไม่ได้รับเงิน แต่กฤษอนงค์ ยังต้องมอบเงินให้กับพ่อของรัฐมนตรีน้ำอีกด้วย ทนายวิฑูรย์มองว่าการพูดแบบนี้ ทำให้รัฐมนตรีน้ำเสียหาย สามารถดำเนินคดีได้ ส่วนการกล่าวอ้างในลักษณะนี้ก็อาจจะทำให้คนฟังเชื่อถือได้ จึงไม่แปลกใจที่บอสพอลยอมจ่ายเงินให้กับกฤษอนงค์ซึ่งการพูดแบบนี้ทำให้ทางฝั่งรัฐมนตรีเสียหายและนอกจากนี้ทั้งสคบ. ก็ได้รับความเสียหายด้วยก็สามารถเข้าแจ้งความได้เช่นกัน ทั้งนี้ตนเองมองว่าพฤติกรรมของกฤษอนงค์ถือเป็นภัยต่อผู้ประกอบการหลายคน เพราะผู้ประกอบการไม่มีใครอยากมีปัญหากับภาครัฐ และบุคคลเหล่านี้มักนำภาครัฐเข้ามาอ้าง ซึ่งทางรายการทางรัฐมนตรีก็ได้มีการโฟนอินเข้ามาเพื่อยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้จักกับกฤษอนงค์ ตนเองยอมรับว่าตกใจที่กฤษอนงค์ นำชื่อรัฐมนตรีมาอ้าง

ส่วนประเด็นที่บอสพอล จะไม่ดำเนินคดีกับนายสามารถนั้น ตนได้พูดคุยกับบอสพอลแล้ว ทำให้ทราบข้อมูลว่าเป็นการพูดคุยกันในเรื่องของการตั้งพรรคการเมือง ซึ่งในช่วงนั้นช่วงเดือนเมษายน 2566 เป็นช่วงที่มีการยุบสภา บอสพอล อยากตั้งพรรคการเมือง เพราะฐานลูกค้าที่ดิไอคอนกรุ๊ปเยอะ ตนในฐานะทนายก็ได้พูดคุยกับนายสามารถ นายสามารถมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันมาก่อนกับบอสพอลเป็นเพื่อนกันมาตลอด ยืนยันว่านายสามารถไม่ได้เรียกรับเงิน นายสามารถถือว่าเป็นคนน่าสงสารคนหนึ่ง เชื่อว่าคนปล่อยคลิปต้องการจะเล่นงานนายสามารถ เพราะนายสามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพ.ร.ก.กฎหมายเรื่องกู้เงินแชร์ลูกโซ่ด้านนี้มาตลอด อีกทั้งยังไปโยงใส่ร้ายพลตำรวจเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ตนอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเขา