Top news รายงาน วันที่ 14พ.ย.67 เวลา 14.00น.ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ นายจงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ นายปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ รองอธิการบดี และคณบดีในแต่ละคณะ ให้การใจต้อนรับ พลโท สุรเทพ หนูแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่จัดกิจกรรมนำสื่อมวลชนสัมพันธ์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ประจำปี 2567 หรือสื่อมวลชนส่วนกลาง มาเยี่ยมชม “มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์” โดยมีจุดประสงค์ เพื่อต้องการให้ “ช่วยประชาสัมพันธ์การศึกษาของนักศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพื้นฐานของชีวิต และจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่”
ทั้งนี้ พลโท สุรเทพ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมและรับฟังการบรรยายภาพรวมการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า วันนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 ที่มีความรับผิดชอบเกี่ยวกับสถานการณ์และพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง 4 อำเภอจังหวัดสงขลา ปัจจุบันในพื้นที่ได้มีการพัฒนาในทุกๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเป็นรากฐานของชีวิตทุกๆคน
หลังจากที่ได้ดูงาน ตนได้นำสื่อมวลชนเข้ามาในพื้นที่ด้วย เพื่อต้องการให้ประชาชนที่ยังไม่เคยเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันจากที่ได้ดำเนินการแก้ไขและสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนแล้วนั้น ทุกหน่วยงานได้ช่วยกันทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ มีการพัฒนาไปทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษาของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ที่พัฒนาไปในทุกด้าน มีทั้ง คณะแพทย์ศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ที่ได้รับความสนใจจากภาคเอกชน นำพานักศึกษาไปดูงานและไปฝึกงาน และนักศึกษาวามารถนำทักษะที่มีไปประกอบอาชีพได้อย่างมากมาย
พลโม สุรเทพ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ ความหลากหลายของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะทำให้เกิดความเสมอภาคของทุกๆคนในการศึกษาและนำไปสู่ความมั่นคงด้านการใช้ชีวิตและอาชีพ รวมถึงรายได้ด้วย ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น ตนจึงอยากให้ประชาชนในพื้นที่รวมทั้งนอกพื้นที่และต่างประเทศเห็นว่าพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่มีความสงบ และความสุขจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ให้ความมั่นใจว่า “สันติสุขจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนแน่นอน”
ขณะที่มหาวิทยาลัยก็มีนโยบายและมีแนวคิดที่ชัดเจนที่จะพัฒนาและให้เกิดความเท่าเทียมเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเสมอภาคซึ่งกันและกัน ส่วนหลังจากนี้ ในพื้นที่ จะมีมหาวิทยาลัยที่สำคัญอยู่ 3 มหาวิทยาลัย และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีเด่นแต่ชื่อเสียง คือ (มอ.ปัตตานี) และ (มอ.หาดใหญ่) ที่มีพื้นที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ที่มีความสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในเรื่องการศึกษาเพื่อให้เกิดความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคง
ปัจจุบัน แนวโน้มสถานการณ์ความรุนแรงและพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นดีขึ้นตามลำดับ และสิ่งที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปคือการพัฒนาให้ความรู้ทางการศึกษาเพื่อเสริมให้คนมีอาชีพและมีความรู้มีรายได้ รวมถึงการพัฒนาอื่นๆก็จะตามมา เมื่อการศึกษามีความเข้มแข็งแล้ว และทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีแนวคิดการพัฒนาเรื่องการศึกษาให้กับทุกภาคส่วนให้มีความเสมอภาค ซึ่งในอนาคต การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจจะตามมา จะมีการส่งออกสินค้า ส่งออกสายอาชีพ และส่งออกบุคลากรที่มีความรู้ ที่ตลาดต้องการ ทั้งการบินไทย การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือการเดินทางด้วยราง และหรือการแพทย์การพยาบาล ซึ่ง ทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีชื่อเสียงด้านการแพทย์และได้รับรางวัลเป็นนักศึกษาแพทย์ดีเด่นด้วย จึงทำให้เห็นถึงขีดความสามารถของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “เทียบเท่ากับทุกคนในจังหวัดอื่นๆได้เหมือนกัน” ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนในพื้นที่เป็นอย่างดี
เมื่อถามถึงการสร้างความเข้าใจและข้อเท็จจริงให้กับคนในพื้นที่เพื่อลดปัญหาและพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน พลโท สุรเทพ ระบุว่า ทางการศึกษาให้ข้อมูลว่า ทางมหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานหนึ่ง และที่ผ่านมาเราพยายามส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน แต่ต้องเริ่มต้นด้วยการศึกษาที่ถูกต้อง รวมทั้งความเข้าใจที่ถูกต้องและข้อเท็จจริงที่ชัดเจน รวมถึงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เมื่อเรียนจบไปแล้วจะเกิดอาชีพและจะทำให้เกิดความยั่งยืนทันที
ด้าน นายปรีชา อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เผยถึงความพร้อมในการพัฒนาบุคลากรในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้เพื่อป้อนให้กลับไปอยู่ในสังคม ว่า เจตนารมณ์ของการตั้งมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ คือ การสร้างโอกาสให้กับเยาวชนคนในพื้นที่ได้มีโอกาสเข้าสู่ระบบทางการศึกษาให้มากที่สุด ส่วนการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยจะเป็นนโยบายจากสภาวิชาชีพ โดยมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่บริหารจัดการ ที่ผ่านมาเราพยายามสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่เข้าสู่ระบบการศึกษาทั้งในระดับอุดมศึกษาและต่ำกว่าปริญญา
ทั้งนี้ สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องการให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือ ต้องเป็นหลักสูตรสมัยใหม่และเป็นความต้องการของยุคปัจจุบัน แล้วต้องทำให้มีอาชีพเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสักวันหนึ่งการพัฒนาการศึกษาจะเป็นหัวใจที่สำคัญอย่างยิ่งโดยทางมหาวิทยาลัยขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับด้านการศึกษา นายปรีชา กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายจงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า งบประมาณในการผลักดันมหาวิทยาลัยให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เมื่อแปรญัตติงบประมาณแต่ละครั้งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ก็ดี จะถูกตัดงบ มองว่าจะเป็นปัญหาการทำงานหรือไม่ นายจงรัก เผยว่า เรื่องงบประมาณตนคิดว่าทางมหาวิทยาลัยต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัย โดยต้องมีแผนงานโครงการ หลังจากนั้นจะมีการคัดกรองภายในมหาวิทยาลัยและเสนอไปยังสำนักงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณก็ให้การสนับสนุน และได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอตลอด ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนทุกโครงการ