“DSI” เตรียมประสานงานขอคลิปเสียง “หญิงสาวรายหนึ่ง” อ้างให้เงินสินบน 10 ล้าน มาตรวจสอบ

"DSI" เตรียมประสานงานขอคลิปเสียง "หญิงสาวรายหนึ่ง" อ้างให้เงินสินบน 10 ล้าน มาตรวจสอบ

Top news รายงาน เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 67 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวถึงคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ที่มีการกล่าวอ้างว่าได้มีการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้กับดีเอสไอนั้น ว่า

 

 

กรณีดังกล่าวนี้ ทางรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการมอบหมายให้คณะตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีการตรวจสอบเรื่องการจ่ายสินบนให้กับหน่วยงานรับไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เพราะถือว่าเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกัน โดยรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงไปประสานขอคลิปเสียงต้นฉบับจากสำนักข่าว (ช่อง 3) ที่มีการรายงานข่าวเมื่อช่วงกลางวันเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) เพื่อจะได้นำมาตรวจสอบว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อใด และเป็นเสียงสนทนาระหว่างบุคคลใด เพื่อจะได้สอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้ปรากฏ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนในประการที่ 2 ได้พบโพสต์ข้อความใน Facebook ของบุคคลที่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง (กฤษอนงค์) ได้มีการโพสต์ว่าเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งจะต้องเอาประเด็นนี้มาตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวไม่ได้มีการระบุช่วงปีที่เกิดคลิปเสียงดังกล่าวขึ้น แต่ทางเราก็ต้องไปตรวจสอบว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องมันน่าจะมีคดีอะไรในกรมสอบสวนคดีพิเศษที่เข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งตอนนี้กำลังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้นอาจจะเป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2559 จึงจะต้องดูรายละเอียดว่าใช่เรื่องเดียวกันกับที่เป็นข่าวหรือไม่ ส่วนจะเป็นคดีเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่หรือคดีใดนั้น รายละเอียดต้องไปตรวจสอบก่อน หากมีความชัดเจนอย่างไรจะชี้แจงให้สาธารณะชนรับทราบ และจะต้องมีการเรียกให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาชี้แจงหรือไม่ ก็คงต้องให้คณะทำงานไปดูเอกสาร แล้วก็ต้องให้คนมาอธิบายว่าคลิปหรือเอกสารที่ได้มา ได้มาอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อนำไปขยายผลต่อว่าเป็นเรื่องอะไรและตัวละครใครบ้างที่เกี่ยวข้อง

 

 

พ.ต.ต.วรณัน ดังกล่าวถึงกรณีที่มีการนำไปแอบอ้างจนเกิดความเสียหายและจะดำเนินคดีนี้โดย แบ่งเป็นสอง ส่วนแรก เพราะเราเป็นหน่วยงานของรัฐ เราต้องพร้อมที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามาตรวจสอบ ขณะเดียวกันถ้าหากข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความเท็จหรือทำให้ราชการหรือกรมเสียหายก็ต้องพิจารณาในเรื่องของบุคคลที่ทำให้เสียหายต่อไป เพราะถ้าหากไม่มีการดำเนินการอะไรเจ้าหน้าที่เองก็อาจจะเสียขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ จึงเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายบริหารต้องออกมาทำหน้าที่ตรงนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครม.ไฟเขียว “สมชัย สัจจพงษ์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่
สถาบันฮัดสัน ชี้ "กลุ่มโพลิซาริโอ" มีส่วนเกี่ยวข้องกลุ่มการก่อการร้าย ในภูมิภาคแอฟริกาตอนเหนือ ขนานนามเป็นองค์กรการก่อร้ายสากล
"นายกฯ" ยังไม่ปรับครม.ยันทุกอย่างเหมือนเดิม เสียงเข้มตอบสื่อปมดึงพปชร.ร่วมรัฐบาล
"บิ๊กอ๊อด"โล่งใจยกฟ้องคดี "บอส อยู่วิทยา" ลุ้นต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาฯเห็นแย้ง
“สุชาติ” โชว์วิชั่น ดันไทยสู่เวทีการค้าโลก จีบนักลงทุนเกาหลีใต้ร่วมสร้างอนาคตเศรษฐกิจสีเขียว-ดิจิทัล
"นายกฯ" แจงเหตุเลื่อนเจรจาภาษีสหรัฐฯ ย้ำไม่ช้าเกินไป พร้อมรักษาสมดุลกับประเทศมหาอำนาจ ยึดประโยชน์ผู้ประกอบการ - เกษตรกรเป็นที่ตั้ง
“สรวงศ์” ขอสื่อเลิกกระพือข่าวปรับครม. ย้ำทุกอย่างเป็นอำนาจนายกฯ หวั่นกระทบการทำงาน
"อนุทิน" ติงสื่อถามเรื่องไม่เป็นสัปปะรด โดนซักอีกภท.โดนปรับออกจากครม.
"จตุพร" เกาะติด "นายกฯ" บินกัมพูชา จับตาคุย MOU 44 หรือไม่ ย้ำต้องยึดผลประโยชน์ชาติ
รัฐบาลสั่งส่วนราชการ-รัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ ลดธงครึ่งเสา 3 วัน ถวายความอาลัยแด่ "สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น