“ทนายรณรงค์” เข้าให้ปากคำคดีทนายตั้ม รับแปลกใจเพื่อนรวยผิดปกติ ย้ำไม่เคยรู้จัก “เจ๊อ้อย”

ซึ่งที่ผ่านมาเคยรับทราบเรื่องเงิน 71 ล้าน หรือเงิน39 ล้านต่างๆหรือไม่ ทนายรณรงค์ ระบุว่า ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้น ตนกับทนายตั้มเริ่มห่างกันแล้ว จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ตั้งแต่ทนายตั้มเริ่มรวยขึ้น ก็ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้าย”

ส่วนในเรื่องของบ้านทนายตั้มที่มีราคาค่อนข้างสูง ทาง ทนายรณรงค์ เผยว่า ทนายตั้มได้ชวนตนไปบ้าน ชวนไปกินไวน์และกินข้าว แต่ตนยังไม่เคยได้ไป มีการบอกและเล่าให้เพื่อนฟังว่าบ้านที่ซื้อมาราคาเท่าไหร่ และตกแต่งบ้านไปกี่บาท

ด้านทนายรณรงค์ มีความแปลกใจในเรื่องของราคาบ้านแต่ไม่เคยถามทางทนายตั้ม ว่าเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ เพราะค่าจ้างทนายตั้มเป็นทนายความ มีราคาที่ค่อนข้างแพง

เมื่อถามว่า ผิดปกติกับการทำอาชีพทนายความหรือไม่เพราะร่ำรวยผิดปกติ ทนายรณรงค์มองว่า ถึงจะค่าจ้างแพงแต่เงินมันกระโดดไปหน่อย

อีกทั้งมีความเป็นไปได้เพราะว่าความอย่างเดียวหรือไม่ ทนายรณรงค์ เผยอีกว่า ถ้าทำสำนักงานและมีเรทราคาค่อนข้างสูงและเปิดเป็น10 ปี จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าหากพึ่งเปิดสำนักงานแต่รับเรทขนาดนี้เลย แต่เปิดมาไม่กี่ปีตนก็มองว่ามีความแปลก แต่อยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านได้ในราคานี้ ถ้าหากดูจากค่าจ้างของทนายตั้ม

ถามต่อว่า มีการพูดถึงเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังบ้างหรือไม่ ทางทนายรณรงค์ ย้ำว่า จำไม่ได้ ไม่ได้สำคัญ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเจ๊อ้อยมาก่อน มารู้จักพร้อมนักข่าว ถ้าหากตำรวจถามเรื่องอะไรก็จะตอบให้หมดเพราะตนเป็นพลเมืองดี

ที่เข้ามาให้ปากคำในวันนี้อาจจะเป็นทามไลน์ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทางทนายรณรงค์ ระบุว่า ต้องเกี่ยวแหละ ไม่งั้นทางตำรวจคงไม่เรียกมา

ทนายรณรงค์ ระบุว่า ไม่ได้กังวลและไม่แปลกใจที่ต้องมาสอบปากคำในวันนี้ แค่แปลกใจว่าทำไมเพื่อนสนิทคนอื่นไม่โดนบ้าง ตนว่าตนห่างกับทนายตั้มที่สุดแล้ว