สี-ไบเดนพบกันครั้งสุดท้ายที่เอเปคเปรู

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนพบหารือเป็นครั้งสุดท้ายกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่เปรู โดยสีให้คำมั่นจะเดินหน้าทำงานร่วมกับสหรัฐภายใต้รัฐบาลสุดใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์

AFP และรอยเตอร์สรายงานว่าไบเดนได้พบหารือกับสีภายในโรงแรมที่ประธานาธิบดีสีเข้าพักเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 16 พย.) ซึ่งเป็นการพบกันนอกรอบของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 10 – 18 พฤศจิกายน 2567 ที่กรุงลิม่า ประเทศเปรู ซึ่งการพบกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนของสีและไบเดน และยังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ไบเดนจะพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนมกราคมปีหน้า (2568)

ระหว่างการพูดคุยกันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สีให้คำมั่นว่าจีนจะเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568 พร้อมย้ำว่าจีนต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐเป็นความสัมพันธ์ที่มั่นคง, ยั่งยืนและเป็นมิตรเหมือนเดิม ซึ่งแม้สีจะตระหนักดีว่าจีนและสหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักภายใต้รัฐบาลไบเดน แต่สีกล่าวว่าจีนจะเปิดการสื่อสารพูดคุย, ขยายความร่วมมือและบริหารจัดการความแตกต่างระหว่างสองชาติ

ขณะที่ไบเดนบอกกับสีว่าแม้ไม่ได้เห็นพ้องต้องกันในทุกเรื่อง แต่ทั้งคู่มักมีการพูดคุยหารือกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งการพบกันครั้งนี้สองผู้นำได้หารือกันในประเด็นขัดแย้งหลักๆ ตั้งแต่เรื่องการค้า, ไต้หวัน, รัสเซียเรื่อยไปจนถึงอาชญากรรมทางไซเบอร์

โดยไบเดนได้แสดงความวิตกเรื่องจีนสนับสนุนอุตสาหกรรมอาวุธของรัสเซีย และประเด็นเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าร่วมรบกับทหารรัสเซียในยูเครน ซึ่งไบเดนต้องการให้จีนกดดันเกาหลีเหนือในเรื่องนี้

ขณะที่จีนก็มีความวิตกในประเด็นการค้า กรณีทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60% ภายใต้นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) นอกจากนี้ก็มีการแต่งตั้งนักการเมืองสายเหยี่ยวที่ล้วนมีแนวคิดต่อต้านจีนมารับตำแหน่งสำคัญๆ รวมทั้งวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ้ ที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศและสส.ไมค์ วอลท์ส ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐ

เฉิน ติงลี่ นักวิเคราะห์จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เซี่ยงไฮ้มองว่าจีนหวังให้การพบกับไบเดนครั้งนี้เป็นการลดความตึงเครียดเพื่อรักษาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐให้เป็นไปอย่างราบรื่นระหว่างการถ่ายโอนอำนาจจากไบเดนไปสู่ทรัมป์

อย่างไรก็ตาม การพบกันครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ของไต้หวันมีแผนจะหยุดแวะที่รัฐฮาวายของสหรัฐและอาจมีกวม รวมอยู่ด้วยในเร็วๆนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความไม่พอใจให้จีนอีกครั้ง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เพจดังจัดหนัก “พรรคส้ม” โพสต์ข้อความทำสังคมสับสน เคลมผลงานผลักดันนโยบายแพทย์ทางไกล เจอ “แขก คำผกา” สวนสุดเจ็บ
จับ "ใบเฟิร์น" อินฟลูฯสาวเซ็กซี่ดัง ลักลอบแปะลิงก์ชวนเล่นพนันออนไลน์
ออกหมายจับ ! สามีชาวต่างชาติของนางกมลวรรณ ผู้ต้องหา คดีฆ่าตัดนิ้วนางชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ
"กนก" ปรบมือ ให้กำลังใจ "โอปอล" คว้ารองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024
นทท.แตกตื่น แต่เช้าเพลิงไหม้ห้องพัก อพยพอลหม่าน
เปิด อู่ ซ่อม รถจยย. บังหน้า ที่แท้เป็นโจรขโมย รถ จยย.
หนุ่มโบลท์ ฉุน! แหม่มรัสเซียทักอย่าขับซิ่ง จอดรถต่อยเลือดกลบปากหน้าป้อมตำรวจพัทยา
สุนัขผู้ซื่อสัตย์นั่งเฝ้าร่างเจ้าของแม้หมดลมหายใจ
โค้งสุดท้ายชิงนายกฯอบจ.เมืองคอนดุเดือดใบปลิวเถื่อนว่อนโซเชี่ยลโจมตี "กนกพร" เบอร์ 1 - เจ้าตัวแฉฝีมือคู่แข่งใช้วิชามารไม่สร้างสรรค์มอบหมายทีมทนายเข้าแจ้งความหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนำเข้า พรบ.คอมฯอันเป็นเท็จแล้ว
สี-ไบเดนพบกันครั้งสุดท้ายที่เอเปคเปรู

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น