NGO มาเลเซียรณรงค์ปล่อยตัวสตรีข้ามเพศชาวไทย

กลุ่มสิทธิมนุษยชนในมาเลเซีย ชวนประชาชนร่วมลงชื่อ ขอให้สุลต่านรัฐสลังงอร์ พระราชทานอภัยโทษแก่สตรีข้ามเพศชาวไทยที่เป็นอัมพาต และต้องโทษจำคุกข้อหาค้ายาเสพติด ฝ่ายหนุนชี้ระบบยุติธรรมไม่เท่าเทียม เมื่อเทียบกับอดีตนายกฯทุจริต กลับได้ลดโทษอย่างรวดเร็ว

 

หนังสือพิมพ์ เซาธ์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานเรื่องนี้ไว้บนเวบไซต์ว่า เปา (Pau) สตรีข้ามเพศชาวไทย ชื่อจริง ธนากร ( Thanakorn Sinsanoi ) อายุ 33 ปี ถูกจำคุกมาตั้งแต่ปี 2556 หลังจากเดินทางเข้าไปในมาเลเซีย และถูกตรวจพบ แมตแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์ 1.3 กิโลกรัม ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเธออ้างว่าเพื่อนเป็นคนใส่ไว้ในกระเป๋า เธอถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต ก่อนลดโทษเป็นจำคุก 30 ปีเมื่อปีที่แล้ว หลังจากมาเลเซียยกเลิกโทษประหาร

 

เปาป่วยเป็นวัณโรคสองครั้ง ส่งผลให้เป็นอัมพาตทั้งตัว ตั้งแต่คอลงมา เธอไปขึ้นในศาลในสภาพที่ถูกเข็นไปบนเตียงโรงพยาบาล

 

ฮายัต (Hayat) กลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ทนายขอให้ศาลปราณี เพราะปัญหาสุขภาพ แต่ศาลระบุว่า ไม่สามารถลดหย่อนโทษมากไปกว่านี้ เพราะ 30 ปี คือโทษต่ำสุดที่กฎหมายอนุญาตให้ลดได้ ทางกลุ่มจึงจัดทำคำร้อง ให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อถวายสุลต่าน ซารา-ฟุดดิน อิ-ดริส ชาห์ แห่งรัฐสลังงอร์ ให้พระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากเธอกระทำความผิดในรัฐนี้ เนื้อหาในคำร้องเน้นย้ำว่า การป่วยวัณโรคสองครั้งในเรือนจำ จนทำให้เป็นอัมพาตทั้งตัว ทำให้เปาไม่สามารถเป็นภัยสังคมอีกต่อไป สมควรได้รับโอกาสมีชีวิตอยู่และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

 

นอกจากนี้ มาเลเซียไม่ยอมนับอัตลักษณ์ข้ามเพศ ทำให้เธออยู่ในเรือนจำชาย ต้องพึ่งพาเพื่อนนักโทษชายในการดูแลแต่ละวัน

 

ชะตากรรมของผู้ต้องขังชาวไทยได้รับความสนใจ หลังจากที่นำไปเปรียบเทียบกับอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ของมาเลเซีย ที่ต้องโทษจำคุกข้อหาทุจริต แต่คณะกรรมการพิจารณาอภัยโทษที่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงเป็นประธาน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

โก๊ะ เซีย หยี ( Goh Cia Yee ) ทนายความมาเลเซีย โพสต์บน X ตั้งคำถามว่า อะไรคืออันตรายต่อสังคมของนักโทษข้ามเพศชาวไทยที่ไม่สามารถขยับขาได้ หรือควบคุมแขนได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เธออาจจะตายในเรือนจำก็ได้ และว่า หากคนคดโกงอย่างอดีตนายกฯ ได้รับการลดโทษ หลังจากติดคุกไม่ถึง 500 วัน ก็น่าจะเป็นเหตุผลในการอภัยโทษให้กับเธอได้

 

ผู้ใช้ X อีกคนเข้ามาสนับสนุนความเห็นของทนายโก๊ะ โดยบอกว่า สังคมจะไม่ได้อะไรกับการกักขังเธอต่อไป แต่การอภัยโทษให้กับอาชญากรรมของนาจิบ ทำให้ประเทศสูญเสียศักดิ์ศรีและความยุติธรรม

 

นาจิบ ราซัก ถูกศาลตัดสินจำคุก 12 ปี ปรับ 210 ล้านริงกิต จากความผิดข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ฟอกเงิน และกระทำผิดต่อหน้าที่ หลังโอนเงิน 42 ล้านริงกิต จากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซีย หรือ วัน MDB เข้าไปในบัญชีส่วนตัว / หลังจำคุกได้ไม่ถึง 2 ปี ก็ได้รับการลดโทษ จาก 12 ปี เหลือ 6 ปี และลดโทษปรับจาก 210 ล้านริงกิต เหลือ 50 ล้านริงกิต หรือ ประมาณ 373 ล้านบาท การลดโทษ ส่งผลให้อดีตผู้นำมาเลเซียจะได้รับการปล่อยตัวในปี 2571

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ม.เจ้อเจียง เชื่อมั่น เครือซีพี ผนึกกำลังลงนาม MOU ร่วมพัฒนานวัตกรรมและทรัพยากรมนุษย์สู่อนาคตยั่งยืน
สมุทรสงครามผุดไอเดียเด็ด จัดการปลาหมอคางดำครบวงจร สร้างรายได้ให้ชุมชน
“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยื่นลาออก พ้นสมาชิกพปชร. หลังมีปมคลิปเสียงหลุด
“ไมค์ ภาณุพงศ์” โผล่ตีรวน โดน Top news ถามไม่ผิดหนีทำไม โบ้ยโทษศาลไม่ยุติธรรม
สทนช. ประกาศเตือน ภาคใต้ 9 จังหวัด ระวัง "น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก" 20-26 พ.ย.นี้
‘กฤษอนงค์’ ปิดเพจแล้ว หลังออกคำแถลง พร้อมรับผิดชอบทุกสิ่งที่ทำ
รวมพลังระดับชาติ...ทั้ง ภาครัฐ ประชาสังคม และ 55 องค์กรเอกชน เร่งขับเคลื่อนภารกิจปฏิวัติการศึกษาไทย ผ่านความร่วมมือ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี จัดประชุมเข้ม เดินหน้าวางโรดแม็ป ปี 2568
ซีพีเอฟ กำไรสุทธิ Q3/67อยู่ที่ 7,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 504% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
“ร้านกาแฟเด็กน้อยทำมือ มุ่งสู่อาชีพที่ยั่งยืน” รร.บ้านราษฎร์ดำเนิน ชัยภูมิ ฝึกทักษะนักเรียนปูทางสร้างอนาคต
“กฤษอนงค์” สีหน้าเรียบเฉย อมยิ้ม ตร.กองปราบนำตัวฝากขังศาลอาญาเช้านี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น