“ตร.ตม.” ขยายผลรวบ 2 ผู้ต้องหา เอี่ยวคดีอุ้มคนจีนรีดค่าไถ่ 12 ล้าน

ตร.ตม.ขยายผลรวบ 2 ผู้ต้องหา เอี่ยวคดีอุ้มคนจีนรีดค่าไถ่ 12 ล้าน

Top news รายงาน วันนี้ ( 18 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องสวนพลู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญฯชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( รอง ผบช.สตม. ) ร่วมแถลงผลจับกุม Mr.Long (นายหลง นามสมมติ) อายุ 27 ปี สัญชาติจีน นางสาวปริศนา (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5462/2567 และ 5463/2567 ลงวันที่ 12 พ.ย.2567 ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมนายหลง ได้ภายใน บริษัทรับแลกเงินดิจิทัล ย่านห้วยขวาง ส่วนนางสาวปริศนา ถูกจับกุมที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ภูหลวง จ.เลย

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้าย 5 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้ก่อเหตุบุกเข้าไปในสำนักงานบริษัทแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.สุทธิสาร และข่มขู่นักธุรกิจจีน โดยเข้าค้นและยึดเงิน 3,200,000 บาท และจับตัวนักธุรกิจจีนทั้ง 2 คน ไปเรียกค่าไถ่ และได้เงินไปกว่า 12 ล้านบาท ก่อนจะนำผู้เสียหายไปปล่อยไว้บนถนนย่านเกษตร-นวมินทร์ ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น

 

 

 

 

 

 

โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้ร่วมกันจับกุม นายหลิว บู ขณะกำลังจะเดินทางออกจาก ไปพนมเปญ ก่อนจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และสน.สุทธิไปดำเนินการทางคดี และสั่งการให้สืบสวนขยายผลในคดีดังกล่าวจนพบว่าก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปนั้นได้ไปแลกเงินสกุลดิจิทัล ที่บริษัทรับแลกเงินสกุลดิจิทัลเถื่อนย่านห้วยขวาง

ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า บริษัทแลกเงินดังกล่าวมี นายหลง ได้มีการจดทะเบียนบริษัทและขออนุญาตเข้ามาทำธุระกิจถูกต้อง แต่ เปิดรับแลกเงินสกุลดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนางสาวปริศนา เป็นนอมินี ในตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีกับทั้งสองคน ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับทั้ง 2 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนจะติดตามจับกุมทั้ง 2 คนเอาไว้ได้และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบบริษัทรับแลกเงินต่างๆว่ามีการเปิดบริษัทถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็ต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท รวมไปถึงการเสียภาษี มาสิเคราะห์ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแล้ว และจะมีการสุ่มตรวจเพื่อไม่ให้มีการแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รองผบช.ภ.2 แถลงปิดคดี ผู้ต้องหา ฆ่าตัดนิ้ว 'แม่ยายอัยการ' เจ้าตัวสารภาพ ต้องการเงินใช้หนี้ ลงมือเพียงลำพัง
"รมว.สุดาวรรณ" เผย วธ.ร่วมสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมพร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนมาประดิษฐานในไทย วันที่ 4 ธ.ค.67-14 ก.พ.68
"ผู้เสียหาย" ร้องสอบ "เอ๋ คลองหลวง" ท้าวแชร์ไฮโซ ส่อโกงกว่า 12 ล้าน
สหรัฐฯปลดล็อก ATACMS ให้ยูเครน มีผลอย่างไร
“เมืองไทยประกันภัย” เชิญ “ศิลปินแห่งชาติ” ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง
"พระพยอม" ชี้ "ตาทิพย์" เป็นวิชามาร ไม่มีในพระไตรปิฎก เตือนพระที่สอน อย่าทำตัวเป็นศาสดา
ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน ตรวจเยี่ยมกองพันรถถัง กองพลนาวิกโยธิน สร้างขวัญกำลังใจ
ชาวบ้าน สุดทน สารเคมีไหลลงแหล่งน้ำ เตรียมแจ้งความเอาผิดกรมบังคับคดี
หนุ่มคลั่งราดน้ำมันจุดไฟเผารถพ่อเลี้ยง โดนจับไม่สำนึก แถมโยนความผิดให้คนอื่น แม่ลงฝ่ามืออรหันต์ลั่นเต็มกระบาล
จีนวอนลดเผชิญหน้าหลังสหรัฐไฟเขียวยูเครนใช้ ATACMS

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น