จากกรณี ลูกชายคลุ้มคลั่งอาละวาดพังข้าวของภายในบ้าน ข่มขู่หมายเอาชีวิตแม่แท้ๆของตัวเอง โดยอาศัยจังหวะแม่มาแจ้งความ เอาน้ำมันเอาจุดไฟเผารถยนต์พ่อเลี้ยง จนวอดวายกลายเป็นเศษเหล็ก หลังเกิดเหตุ สภ.บางละมุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวนมาก สภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นของลูกชาย ตกอยู่ในบ้านพักหลังเกิดเหตุ ในพื้นที่ ม.4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
18 พฤศจิกายน 2567 – เวลา 02.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง ได้นำกำลังชุดสืบสวนไปบุกเข้าจับกุมตัว นาย วิน อายุ 28 ปี ลูกชายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ได้พร้อม น.ส.ป๊อป อายุ 26 ปี แฟนสาว ได้ในบ้านเช่าย่านประชุมมิตร พื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับในข้อหา “บุกรุกเคหะสถานโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมา ชุดสืบสวนจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง กลับมากลับยัง สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวน ทั้งนี้ เมื่อแม่ทราบข่าวว่าลูกชายและลูกสะใภ้ โดนตำรวจจับกุมแล้ว จึงรีบเดินทางมาดูหน้าลูกชายในสายเลือด ระหว่างสอบสวนตัวลูกชาย แม่ได้เดินเข้ากอดคอลูกชายฝั่งอยู่ข้างหลัง โดยมีจังหวะหนึ่ง แม่ทนไม่ไหวใช้ฝ่ามืออรหันต์ตบเข้าศีรษะอย่างลั่น เพราะลูกชายให้การภาคเสธแถมยังโยนความผิดให้คนอื่นอีก ถึงขั้นตัวแม่เครียดยกมือไหว้ลูกชายให้พูดความจริง จากนั้นทั้งคู่ได้ร้องไห้โฮพูดระบายความในใจออกมา ก่อนตัวลูกชายและลูกสะใภ้จะคิดได้และสำนึกผิดคลานเข้าไปก้มกราบขอโทษแม่
ก่อนที่ นายศราวุฒิ หรือวิน ลูกชาย จะเปิดปากให้การว่า ก่อนจะลงมือเผารถ ทางแม่ได้ขับรถจากชลบุรี มาเยี่ยมครอบครัวที่ตัวเองอยู่ที่ จ.ระยอง โดยจังหวะนั้นกำลังหาวิธีเอาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนข้ามมาจังหวัดชลบุรี จึงวางแผนกับเมีย เอาปืนและกระสุนที่ตำรวจพบวันเกิดเหตุ แอบซุกใส่กระตร้าผ้าวางท้ายรถแล้วบอกแม่ว่าฝากเอาไปเก็บที่บ้านแม่ด้วย ยอมรับว่าไม่กล้าพกปืนขี่รถจยย.ข้ามจังหวัด หลังจากที่แม่ถึงบ้าน จึงพาเมียขับรถจยย.ตามมาเอาของที่ซุกไว้ในกระตร้าผ้า แต่ปรากฏว่ามาถึงบ้านแม่ดันหาตระกร้าผ้าไม่เจอ จึงเกิดความโมโหเพราะคิดว่าต้องมีใครสักคนในบ้านเอาไปแอบ
ด้วยปัญญาหลายๆเรื่องรุมเร้า ยอมรับว่าชั่วโมงนััน หัวเสียฟิวส์ขาดสติแตก คว้าจอบไปฟาดทุบทำลายรถยนต์ของพ่อเลี้ยง พร้อมกับราดน้ำมันข่มขู่ จนตัวแม่ตัวเองพากันเดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก แล้วอาศัยจังหวะนั้นจุดไฟเผารถ ส่วนอาวุธปืนที่พบเป็นของตัวเองจริง แต่ไม่เคยเอาไปข่มขู่ใครสุดท้ายจึงอยากขอโทษแม่ และครอบครัวที่ทำให้เดือดร้อน รวมถึงคนรอบข้างมองไม่ดี หลังจากนี้ก็ยอมรับผิดและชดใช้โทษที่ตัวเองได้ก่อขึ้น
ขณะที่ น.ส.สุ อายุ 48 ปี มารดาของผู้ก่อเหตุ ได้อโหสิกรรมให้ลูกชายและลูกสะใภ้ ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการยุติธรรม โดยเล่าด้วยอีกด้วย หลังลูกชายลงมือก่อเหตุเผารถยนต์พ่อเลี้ยง ทางเจ้าของที่ดินที่เธอและครอบครัวอาศัยอยู่ ประกาศว่าหากยังไม่สามารถจับตัวลูกชาย หรือพาเข้ามอบตัวได้จะขอไล่เธอออกจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากสร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านระแวกนั้นเป็นอย่างมาก
เบื้องต้น ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมของกลางเสื้อผ้า ที่สวมใส่วันก่อเหตุ และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 ปลอก ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป