ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา จะส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ตามกรอบที่ดีเอสไอวางกรอบไว้ 15 วัน คือสิ้นสุดภายในวันที่ 3 ธันวาคม นี้ นายวิฑูรย์ บอกว่า ทีมทนายความเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่คงจะต้องมีการขอขยายเวลาไปก่อน เพราะเอกสารที่จะใช้ในการสู้คดีไม่ได้มีเพียง 1-2 แผ่น และยังมีระบบคอมพิวเตอร์ที่จะต้องเปิดอีก ซึ่งคนที่รู้ข้อเท็จจริงมากที่สุด คือผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย ที่อยู่ในเรือนจำ ทำให้ทนายเข้าออกเรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และส่งผลให้การต่อสู้คดีเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยผู้ต้องหาทุกคนได้ขอขยายเวลาออกไป แต่ยังไม่ได้ยื่น เพราะยังไม่ครบตามกำหนดกรอบระยะเวลา โดยสามารถขอขยายได้ครั้งละ 15 วัน แต่ก็คงไม่ได้ “เกเร” ขยายไปไกล เพื่อเปิดโอกาสให้เรามีเวลาได้ชี้แจงอะไรให้มากกว่านี้อีกหน่อย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดีเอสไอ จะสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ ผู้ต้องหาพร้อมจะชี้แจงหรือไม่ นายวิฑูรย์กล่าวว่า บางคำถามเราสามารถตอบได้ แต่บางคำถาม ก็ต้องใช้เอกสาร ซึ่งก็ต้องขออนุญาตส่งเอกสารตามไปภายหลัง ส่วนข้อหาฉ้อโกงทีมทนายพยายาม ส่งรายละเอียดไปค่อนข้างเยอะแล้ว ตั้งแต่คดียังอยู่ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถ้าหากตอบได้ก็จะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้

สำหรับแนวทางการยื่นประกันตัว ยอมรับว่า ได้มีการเตรนียมการอยู่ แต่ก็มีโอกาสที่ศาลจะยกคำร้องสูง และผู้เสียหายในคดี ก็ได้ยื่นศาลขอคัดค้านการประกันตัว ซึ่งจะต้องมีการหารือกับทีมทนายก่อนว่า จะมีการวางแผนยื่นประกันตัวเมื่อไร

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอ จะเข้าไปสอบปากคำบอสพอล กรณีคลิปเสียงที่เป็นคู่สายสนทนากับนางสาวกฤษอนงค์ มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องคลิปเสียงต้องบอกตามตรงว่า บริบทในวันนั้นพูดหลายเรื่อง ทั้งการแอบอ้างชื่อนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และการจ่ายสินบนให้ทางดีเอสไอ ซึ่งบอสพอลยืนยันว่า นางสาวกฤษอนงค์ มีการพูดจริงตามที่ปรากฏในคลิป และยืนยันว่าไม่ใช่คลิปที่มีการตัดต่อ รับเป็นสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาเอง โดยจบที่เราได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย 89 คน

ส่วนเมื่อวานนี้ ที่เดินทางไปแจ้งความกรณีคลิปเสียง 20 ล้านบาท นายวิฑูรย์ ระบุว่า เป็นเพียงการแจ้งความร้องทุกข์เท่านั้น ยังไม่ได้ให้ปากคำ เพราะทางกองบังคับการปราบปราม ยังติดคดีที่เป็นคลิปเสียงของนางสาวจิราพร และเราจะดำเนินการให้ปากคำโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ทันระยะกรอบเวลาที่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เปิดเผยไว้ว่า ขอเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน

ส่วนกรณีกลุ่มที่อ้างตนว่าเป็นผู้เสียหาย 89 คน นายวิฑูรย์ บอกว่า อาจไม่ใช่ผู้เสียหายจริงทั้งหมด ซึ่งหากตรวจสอบได้ก็จะดำเนินคดีแจ้งความเท็จภายในต้นเดือนธันวาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่มั่นใจว่า อาจจะไม่ใช่ผู้เสียหายทั้งหมด ส่วนผู้เสียหายที่มากับทีมทนายความอเวนเจอร์สจะมีการตรวจสอบด้วยหรือไม่ เรื่องนั้นต้องรอไปก่อน เพราะเป็นเนื้อหาคดีหากพูดออกไปอาจเป็นการข่มขู่พยาน

นายวิฑูรย์ ยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบอสในการยื่นขอประกันตัวไม่ได้มีเจตนาในการละเมิดอำนาจศาลแต่ตามรัฐธรรมนูญมีการบัญญัติในเรื่องของการให้ประกันตัว จึงขอฝากให้ศาลยุติธรรมพิจารณาในเรื่องนี้