“ผบ.ทร.” ยันไม่กดดัน “บิ๊กอ้วน” ปมเรือดำน้ำ เตรียม 2 แผนชง ครม.

ส่วนถ้า ครม. ยังไม่อนุมัติแก้ไขสัญญาเรื่องเครื่องยนต์ จะตั้งงบเรือดำน้ำได้ทันในปีนี้หรือไม่นั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ตนได้เตรียมไว้ 2 แผน ได้แก่ แผนที่ 1 คือมีเรือฟริเกต 2 ลำแน่ๆ เป็นตัวยืนพื้นของงบปี69 ส่วนเรือดำน้ำจะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ ครม. แผนที่ 2 คือในกรณีไม่ได้ก็จะเสนอเรือฟริเกต 3 ลำ อย่างไรก็ตามถ้าได้เรือดำน้ำก็จะหยุดเรือฟริเกตไว้แค่ 2 ลำ ส่วนสาเหตุที่ต้องจัดหาเรือฟลิเกตพร้อมกัน 2 ลำ ไม่ซื้อลำเดียวนั้น เพราะเราไม่ได้ซื้อจากต่างประเทศ ต้องการให้อู่ในประเทศมีส่วนร่วม ส่งเสริมแนวทางของรัฐบาลในการให้เงินหมุนเวียนในประเทศ การไปต่อลำเดียวราคาจะคุ้มหรือไม่ แต่เมื่อมีต่อสองลำก็มีความสมเหตุสมผล ซึ่งกองทัพเรือต่อเรือในประเทศหลายลำมาแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการชี้นำให้ซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ จากจีนนั้น ความต้องการของกองทัพเรือต้องการอย่างน้อย 2 ลำ ถ้าได้ 3 ลำ ก็จะดี แต่ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะเห็นใจแค่ไหน และมีกรอบงบประมาณเพียงพอหรือไม่

เมื่อถามว่าจากการได้หารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีท่าทีอย่างไร พลเรือเอกจิรพล กล่าวว่า “ท่านยิ้มเลยครับ ตนก็เข้าใจท่าน ว่าท่านต้องตรวจทุกอย่างและเอกสารเยอะต้องใช้เวลานิดนึง ตนไม่กดดันท่าน แต่คิดว่าท่านทราบดีว่ากองทัพเรืออยู่ในสภาพไหน ถ้าท่านเข้าใจก็จะตัดสินเองว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

สำหรับโครงการในการปรับปรุงเรือหลวงปัตตานีและเรือหลวงนราธิวาส รวมถึงระบบอำนวยการรบของเรือหลวงช้างนั้น พลเรือเอกจิรพล กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ในงบประมาณปี 2567 ตอนนี้เรื่องออกจากกองทัพเรือไปแล้วอยู่ที่ผู้มีอำนาจลงนามถ้าไม่มีอะไรติดขัดก็คาดว่าจะลงนามได้ตามห้วงเวลาที่เหมาะ