จนท.เร่งไล่ล่าคนร้าย ลอบวางบึ้มแคมป์ก่อสร้าง “เจ้าแม่กวนอิม” คนงานเจ็บ 3 ราย

จนท.เร่งไล่ล่าคนร้าย ลอบวางบึ้มแคมป์ก่อสร้าง "เจ้าแม่กวนอิม" คนงานเจ็บ 3 ราย

Top news รายงาน จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณที่พักคนงานก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่บ้านปากบางสะกอม หมู่ที่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา จำนวน 2 ลูก ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บราย 3 คน นอกจากนี้ยังตรวจพบจดหมายข่มขู่ผู้ที่ทำงานในโครงการโดยมีทั้งภาษาไทยและภาษาเมียนมา ตกอยู่บริเวณใกล้พื้นที่เกิดเหตุ โดยมีใจความว่า “ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ และใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขอเตือนจงหยุดไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด (20 พ.ย.67) พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เหตุระเบิดส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ดอน แก้วลอย อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาข้างซ้าย, ด.ญ.มัณฐิตา วิทเวท อายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะและคอ และ นายสมพร นามเขียว อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดใส่ตามร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้รับบาดเจ็บทั้ง 3 รายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเทพา อ.เทพา จ.สงขลา แล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น และเวลา 10.40 น. เกิดเหตุระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่ 4 ที่บริเวณเส้นทางเข้าจุดเกิดเหตุ ห่างจากจุดแรกประมาณ 400 เมตร ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

 

 

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับพี่น้องประชาชน ก่อนเข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพื่อรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนขยายผลจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีไปตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนาซึ่ง
ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม

 

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่แม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลขโทรศัพท์ 061-173-2999 หรือแจ้งได้ที่สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน.1341 หรือแจ้งได้ที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

น้ำใจแทร่ๆ "เจ้าของเต็นท์รถ" สระแก้ว ส่งมอบรถกระบะคันใหม่ พร้อมจยย. ให้ลุงป้า "มูลนิธิธรรมนัสฯ" สมทบเงิน 4 แสนไว้รักษาตัว
“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันค่าไฟไม่ได้เพิ่ม แต่ลดลงเหลือ 3.99 บ.ต่อหน่วย
โค้งสุดท้าย "พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เคาะประตูบ้าน ชาวเมืองคอน ขอเสียงหนุน "ไสว" เป็นสส.เขต 8
ชาวเมืองน่าน เข้าพบ "นิพนธ์" อดีตรมช.มหาดไทย ผลักดันพิสูจน์สิทธิ ออกโฉนดที่ดินสำเร็จ หลังรอคอยนานกว่า 30 ปี
"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น