เวลา 20.30 น. คืนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ร.ต.ท เชิดชาย สาลีผล รอง สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเข้าเจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนาย เดินทางไปยังชุมชนประตูน้ำ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลัง น.ส.ศุภลักษณ์ แซ่ลิ้ม อายุ 24 ปี ผู้เสียหายได้โทรศัพท์แจ้งว่าถูกนาย นิติกร รามอ้น หรือเล็ก อายุ 38 ปี แอบย่องเข้ามาปีนดูตนเองและน้องสาวอาบน้ำ ซึ่งเมื่อวานนี้นายนิติกร หลังเสพยาก็คลุ้มคลั่ง จะเอามีดไล่ฟันน้าสาวของนายนิติกรเอง เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรกเดินทางไปถึง พบนายนิติกร นั่งอยู่ในบ้านร้าง หลังห้องน้ำของบ้านน.ส.ศุภลักษณ์ ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว ซึ่งนายนิติกร วันนี้อยู่ในอาการปกติ พร้อมปฏิเสธทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวขึ้นไปทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา โดยผู้เสียหายได้รวมตัวกันเดินทางไปแจ้งความ นายนิติกร เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งออกมาจากคุกได้ประมาณ 2 เดือนแล้วในคดีเสพยาเสพติด วันนี้แค่มานั่งเฉยๆ หลังบ้านของน.ส.ศุภลักษณ์ แต่ไม่ได้แอบดูน.ส.ศุภลักษณ์ อาบน้ำแต่อย่างใด ส่วนเรื่องเมื่อคืนวานนี้ ตนเองได้ทะเลาะกับนางดวงใจ แสงอรุณ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นน้าสาว
โดยที่ตนเองถือเป็นไฟฉาย ไม่ใช่มีดและไม่ได้คลุ้มคลั่ง ซึ่งตนเองเสพยาบ้าครั้งสุดท้าย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น.ส.ศุภลักษณ์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า พวกตนเองต้องอยู่อย่างหวาดกลัว หลังนายนิติกร ออกมาจากคุก โดยนายนิติกร เคยแอบมาดูน้องสาวตนเอง อาบน้ำมาแล้ว 1 ครั้ง ตนเองเห็นว่าเป็นคนในชุมชนเดียวกัน จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าอย่ามาทำแบบนี้อีก จนคืนนี้ตนเองโดนกับตัวเอง ขณะเข้าห้องน้ำกำลังจะอาบน้ำ ก็เห็นนายนิติกร ที่แอบอยู่หลังห้องน้ำ กำลังแอบดูตน ตนเองได้ตะโกนว่าและบอกว่าอย่ามาทำแบบนี้ ซึ่งนายนิติกรก็เฉย แถมไม่ยอมหนีและไม่ยอมไปไหน ตนเองจึงรีบใส่เสื้อผ้า เข้ามาในบ้านโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว ซึ่งเมื่อวานนี้นายนิติกร หลังเสพยาบ้าเข้าไป ก็คลุ้มคลั่ง เดินถือมีดแกว่งไปมาและจะเข้าไปทำร้ายนางดวงใจ แต่นางดวงใจวิ่งหนีได้ทัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาที่บ้านของนายนิติกร แต่นายนิติกรได้หลบหนีหายไป ก่อนจะมาโผล่หลังห้องน้ำบ้านตนในคืนนี้ ตนเองอยากให้นายนิติกร เข้าสู่การบำบัดหรือติดคุกไปยาวๆ ไม่อยากให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านแถวนี้ นางดวงใจ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้หลังตนเองเลิกงานกลับเข้าบ้าน เจอนายนิติกร