“เจ๊อ้อย” รับดูแล “ทนายตั้ม” เที่ยวเมืองนอกครั้งละ 3-4 ล้าน ตร.สอบปากคำเพิ่ม เคลียร์ปมแอบติด GPS ในรถ

"เจ๊อ้อย" รับดูแล "ทนายตั้ม" เที่ยวเมืองนอกครั้งละ 3-4 ล้าน ตร.สอบปากคำเพิ่ม เคลียร์ปมแอบติด GPS ในรถ

Top news รายงาน วันนี้ (21 พ.ย.) เพจเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้สัมภาษณ์พิเศษนางสาวจตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” ในรายการ “EXCLUSIVE FOR SONDHI TALK” นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส และเจ้าของรายการ โดยมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ตำรวจได้สอบปากคำเจ๊อ้อยนานกว่า 12 ชั่วโมง เนื่องจากเจ๊อ้อยจะเดินทางกลับต่างประเทศในวันนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยผลการสอบเจ๊อ้อยนานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อสอบสวนประเด็นที่ยังตกหล่น รวมถึงเรื่องของพินัยกรรมด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งในบางช่วงของรายการ เจ๊อ้อย ได้พูดถึงเรื่องพินัยกรรมที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งมีทั้งหมด 2 ฉบับ โดยเรื่องราวได้เกิดขึ้นราวๆ กลางปี 2566 อีกทั้ง ทางทนายตั้ม ยังเป็นคนต้นคิด ให้ลูกคนเล็กของตนเองเป็นลูกบุญธรรมเจ๊อ้อย แต่ด้วยกฎหมายของฝรั่งเศส การที่จะรับบุตรบุญธรรมนั้น ต้องให้ลูกยอมรับแม่บุญธรรมโดยชอบ และด้านลูกของทนายตั้มก็ไม่ยินยอมด้วย จนกระทั่งตอนนี้ เจ๊อ้อยยังไม่ได้พินัยกรรมสักฉบับ

 

 

ส่วนเหตุผลที่เลิกจ้างทนายตั้ม เพราะว่าทนายตั้ม และครอบครัว ใช้เงินเจ๊อ้อยเที่ยวต่างประเทศ เช่น ฟินแลนด์ นิวยอร์ก โดยการเที่ยวแต่ละครั้งก็มากกว่าค่าจ้าง เป็นเงินราว 3-4 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ทนายตั้ม ชวนเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน เพื่อจะพาไปรู้จักคนใหญ่โตในแวดวงการเมือง ตอนแรกปฏิเสธไป เพราะไม่อยากเที่ยวแบบลำบาก และยังไม่ได้คิดถึงเรื่องของการถูกลอบสังหารแต่อย่างใด นอกจากนี้ เรื่องที่ทนายตั้ม ติดจีพีเอสที่รถยนต์ของเจ๊อ้อย ทางศูนย์ยืนยันว่า มีการดูล่าสุดในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นชื่อของภรรยาทนายตั้ม

ต่อมาเวลา 13.00 น. พลตำรวจตรี สุวัฒน์ เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมคดีของ “เจ๊อ้อย” ในเรื่องกระแสข่าวมรดกของเจ๊อ้อย ที่นายปานเทพ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ จากการสอบปากคำยังไม่มีความผิดอะไรที่ปรากฏขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวพนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบไปหมดแล้ว ส่วนการติด GPS บนรถเบนซ์ที่เจ๊อ้อยให้ทางทนายตั้มเป็นผู้ซื้อให้นั้น เบื้องต้น จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นระบบ GPS ของตัวรถอยู่แล้ว ใครเป็นผู้ซื้อก็จะได้ ID GPS ในการเข้า Login ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

 

ส่วนพยาน 2 คน ของในคดีปมเงิน 39 ล้านบาท (ดาว พี่สาวเมียทนายตั้ม – เล็ก คนสนิททนายตั้ม) ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนขนเงิน ตอนนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้กันใครเป็นพยาน ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และพิจารณาอีกทีว่าใครมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ หรือเป็นแค่ส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ แต่ไม่มีเจตนาร่วมด้วย ทุกอย่างพนักงานสอบสวนจะทำด้วยความรอบคอบ

 

 

ตอนนี้ทั้ง 4 เคส ในคดีปมเงิน 39 ล้านบาท ที่คุยกับพนักงานสอบสวน เห็นว่าหลักฐานค่อนข้างชัดเจนพอสมควรในทุกเรื่อง ตอนนี้ก็อยู่ที่พยานหลักฐาน และนำมาวิเคราะห์กันอีกทีว่า ใครมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเพิ่มหรือไม่ และจะพยายามสรุปสำนวนให้เสร็จภายในฝาก 3 และส่งอัยการในฝาก 4 เพื่อให้อัยการได้ตรวจดูสำนวนต่างๆ เพราะเรื่องนี้มีหลายกรรม และมีความละเอียดหลายอย่าง เผื่ออัยการให้ทางตำรวจกลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนสมบูรณ์ที่สุด.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ภูมิธรรม” เผยคนเสื้อแดงปาของใส่ “ทักษิณ” เป็นสถานการณ์เกิดขึ้นได้
ตร.เร่งล่าโจรยกเค้าบ้านใหม่ลูกสาว ‘แอ๊ด คาราบาว’ ย่านหัวหมาก ทรัพย์สินสูญหายกว่า 1 แสนบาท
"ภูมิธรรม" สวน "จุรินทร์" แถลงนโยบายผ่านรัฐสภาแล้ว ชี้ "เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ" ไม่จำเป็นต้องประชามติซ้ำ
ตร.จับตัวนักโทษคดียาเสพติดได้แล้ว หลังแหกคุกห้วยกลั้ง จ.ชุมพร
รวบสาวแสบ ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อเทรดเงินดอลลาร์แคนาดา
"ทบ." ยันตรวจ 2-3 ปี ไม่พบข้อมูล "แสตมป์" ร้องเรียนศูนย์รับร้องทุกช์ ถูกนายพลยัดผิด ม.112
จนท.ควบคุมไฟไหม้บ่อขยะเอกชนบางปูได้แล้ว เหลือเพียงกลุ่มควันเล็กน้อย
ตร.บุกรวบแก๊งเด็กช่าง ย่านพระประแดง มั่วสุมโชว์ปืนไทยประดิษฐ์ ยึดของกลางอื้อ
กรมอุตุฯ เผยไทยอุ่นขึ้น อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้เจอฝนคะนองบางแห่ง
จี้เร่งบังคับใช้กฎหมายจัดการ "บ่อกุ้งร้าง" แหล่งเพาะพันธุ์ปลาหมอคางดำ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น