ไฟแนนเชียล ไทมส์ อ้างคำกล่าวของ ติง อวี้ฟาน นักวิชาการศูนย์วิจัยการพัฒนาของคณะมนตรีรัฐกิจของจีน (State Council) ว่า นโยบายปกป้องทางการค้าของ ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อาจเป็นอุปสรรคของผู้ผลิตอาวุธสหรัฐฯเอง ในการเข้าถึงส่วนประกอบที่จำเป็น และหากไม่มีผลิตภัณฑ์จากจีน ผุ้ประกอบการทางทหารจะไม่สามารถเดินหน้าการผลิตได้ ผลกระทบร้ายแรงเหล่านี้จะขยายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ของสหรัฐ ที่ต้องพึ่งพาส่วนประกอบราคาถูกจากจีนเช่นเดียวกัน
ความเห็นของนักวิชาการซึ่งเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน เป็นการโต้กลับอย่างชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่ง นับจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ด้วยการชูนโยบายเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตราสูงถึง 60% แต่ทรัมป์ยังไม่ได้เผยรายละเอียดของนโยบายนี้เท่าไหร่นัก
ทรัมป์ เชื่อว่านโยบายภาษี จะช่วยสะสางปัญหาขาดดุลการค้า และโยกการลงทุนเข้าไปในประเทศ ทั้งยังมั่นใจว่า การเรียกภาษีสูง ๆ จะเพิ่มอำนาจการเจรจาต่อรองให้กับสหรัฐฯ แต่ นักวิชาการจีน แย้งว่า นี่เป็นแนวคิดราคาแพงสำหรับสหรัฐฯ เนื่องจากธุรกิจอเมริกันจำนวนมาก ต้องพึ่งพาสินค้าขั้นกลางจากจีน ( intermediate goods- สินค้าที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ) และบริษัทอเมริกันจะไม่สามารถหาผลิตภัณฑ์ทดแทนได้ในเวลาอันสั้น
อุตสาหกรรมทหารสหรัฐฯ พึ่งพาผู้ผลิตจีนไม่น้อย อย่างเมื่อเดือนกันยายน เกรก เฮยส์ ซีอีโอ RTX ยักษ์ใหญ่ในวงการ ออกมาบอกว่า บริษัทกำลังมองหาทางเลือกใหม่ ทดแทนซับพลายเออร์จีนเกือบ 2 พันรายที่ใช้บริการอยู่
เจพี มอร์แกน คาดการณ์ว่า คณะผู้บริหารชุดใหม่สหรัฐฯ น่าจะใช้มาตรการภาษีอัตราไม่สูงนักกับสินค้าที่จีนเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ และหากเก็บภาษีในอัตราลดหลั่นกันไป คาดว่าจะส่งผลกระทบไม่มากต่อ GDP ของสหรัฐฯ
อีกด้านหนึ่ง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเสียใจที่ ต่ง จวิน รัฐมนตรีกลาโหมของจีน ตัดสินใจไม่พบเจรจากัน ระหว่างร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ที่ สปป.ลาว โดยออสติน มองว่า เป็นการก้าวถอยหลังของทั้งภูมิภาค ที่ต้องการเห็นสองประเทศที่มีบทบาทสำคัญ ได้พบปะเจรจาและให้ความมั่นใจแก่ภูมิภาค
จีนไม่แสดงความเห็นว่าเหตุใด รัฐมนตรีกลาโหม จึงไม่ตอบรับการเจรจากับออสติน นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-พลัส อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามรักษาการติดต่อสื่อสารทางทหารระหว่างกันต่อไป แต่คาดว่าสาเหตุมาจากจีนไม่พอใจการขายอาวุธให้กับไต้หวันมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ซึ่งยังเป็นครั้งแรก ที่สหรัฐฯขายขีปนาวุธชนิดพื้นสู่อากาศให้กับไต้หวันด้วย จีนออกมาประณาม และให้คำมั่นจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด