RT รายงานว่าซาบรีน่า ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐออกมาแถลงเมื่อวานนี้ (พฤหัสที่ 21 พย.) ต่อกรณีรัสเซียยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลางชนิดใหม่ที่ชื่อว่า “โอเรชนิก” (Oreshnik) โจมตีเมืองดนิโปร ตะวันออกของยูเครนในช่วงเช้าวันเดียวกัน สร้างความแตกตื่นไปทั่วโลกเพราะนึกว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM ทั้งนี้ซิงห์ยอมรับว่าสหรัฐรู้สึกวิตกเกี่ยวกับขีปนาวุธชนิดใหม่ของรัสเซีย และมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อยูเครน อย่างไรก็ตามซิงห์กล่าวว่ายูเครนเคยรับมือกับการโจมตีที่รุนแรงและน่ากลัวกว่านี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นสหรัฐจะเดินหน้าสนับสนุนและจัดหาอาวุธที่ยูเครนต้องการต่อไป
ซิงห์ยังเน้นด้วยว่าสหรัฐเพิ่งอนุมัติแผนช่วยเหลือด้านอาวุธมูลค่า 275 ล้านดอลล่าร์ให้ยูเครน และจะให้มากกว่านี้อีกจนกว่าจะสิ้นสุดรัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินออกแถลงการณ์ชี้แจงหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคลูกใหม่ลงเมืองดนิโปรว่าเพื่อตอบโต้ชาติสมาชิกนาโตที่ไฟเขียวยูเครนให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย พร้อมเตือนว่ารัสเซียมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองด้วยการโจมตีเป้าหมายทางทหารของประเทศพันธมิตรยูเครนเหล่านี้ ซึ่งซิงห์โต้กลับว่าคำขู่ของปูตินเป็นเพียง “วาทกรรมลอยๆ “ ไม่ใช่คำขู่ที่น่าเชื่อถือ
ขณะที่แครีน ชอง-ปิแยร์ โฆษกทำเนียบขาวก็ออกมาย้ำจุดยืนเดียวกันว่าสหรัฐจะไม่หยุดจัดหาอาวุธให้ยูเครนอย่างแน่นอน