ปรากฎตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากสื่อทุกช่อง สำหรับทนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือ เดือน ภรรยาของทนายตั้ม โดยบอกสื่อว่า นางปทิตตายืนยันว่าไม่ทราบแหล่งที่มาของเงิน และไม่ทราบว่าเป็นการฉ้อโกง ส่วนที่ตนรู้สึกหนักใจก็คงเป็นเรื่องที่ทนายตั้ม ประสงค์จะสู้คดี อาจจะยังไม่รู้สำนึก หรืออาจจะยังคิดว่ามีทางชนะคดีได้ ตนก็ให้คำแนะนำไป ว่า หากสู้หัวชนฝา ก็ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ และในฐานะที่ทนายตั้มเป็นผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย หากกระทำความผิดเอง โทษจะหนัก นอกจากนั้นตนยังบอกถึงผลการกระทำที่จะส่งผลกระทบคนรอบข้าง ก็จะเดือดร้อนไปด้วยทุกคน

สำหรับนางปทิตตา มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ในฐานะผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในบ้านพร้อมที่ดิน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงที่ทนายตั้มรับโอนเงิน 71 ล้านบาท ห่างกัน ประมาณ 1 เดือน นอกจากนี้ทางทะเบียน พบว่านางปทิตตา มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ษิทราลอว์ ประมาณ 45%

คดีของปทิตตา ภรรยาทนายตั้ม ถ้ามองในแง่นักกฎหมายการกระทำความผิด สามารถแบ่งได้สององค์ประกอบ คือ องค์ประกอบภายนอก และภายใน องค์ประกอบภายนอกคือการเซ้นชื่อรับโอนบ้าน ซึ่งมีแน่นอน แต่สำหรับองค์ประกอบภายใน ซึ่งต้องพิจารณาว่า รู้หรือไม่ว่าเป็นการกระทำความผิด และมีเจตนาในการกระทำความผิดหรือไม่ เป็นเรื่องภายใน ที่จะต้องพิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริง