BBC และ RT รายงานว่านายฌอง-โนเอล บาโร รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์พิเศษกับ BBC ซึ่งมีกำหนดจะออกอากาศในวันนี้ (อาทิตย์ที่24 พย.) โดยกล่าวว่าฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล “สกั๊ลป์-อีจี” (SCALP-EG) ที่ฝรั่งเศสส่งให้โจมตีเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ภายใต้เหตุผลด้านการป้องกันตัว พร้อมย้ำว่าฝรั่งเศสจะไม่ขีดเส้นแดงเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ซึ่งหมายความว่าฝรั่งเศสจะช่วยยูเครนโดยไม่มีขีดจำกัด
ฝรั่งเศสได้จัดส่งขีปนาวุธ “สกั๊ลป์-อีจี” ให้กับยูเครนโดยไม่เปิดเผยจำนวนก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนั้นไฟเขียวให้โจมตีเฉพาะดินแดนที่เคยเป็นของยูเครนแต่ถูกรัสเซียยึดไป รวมทั้งไครเมียและ 4 แคว้นที่เพิ่งควบรวมเข้ากับรัสเซียในปี 2565
การให้สัมภาษณ์ของบาโรถือเป็นครั้งแรกที่ฝรั่งเศสยืนยันให้ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีดินแดนของรัสเซีย และเป็นการพูดหลังจากที่ยูเครนออกมายืนยันว่าอังกฤษอนุญาตให้ยูเครนยิงขีปนาวุธ “สตอร์ม ชาโดว์” (Storm Shadow) เพียงวันเดียวกัน และหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้นำสหรัฐอนุญาตให้ยูเครนยิงขีปนาวุธ “ATACMS” (อะ-แท๊ก-คึ่มส์) โจมตีรัสเซีย
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงเคยพูดว่าฝรั่งเศสกำลังพิจารณาว่าจะอนุมัติให้ยูเครนใช้ “สกั๊ลป์ อีจี” ยิงลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียดีหรือไม่ โดย “สกั๊ลป์ อีจี” มีระยะยิงไกลถึง 550 กิโลเมตร
สัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนยิงขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐ 6 ลูกโจมตีแคว้นเบรียนซ์ของรัสเซีย แต่โดนรัสเซียสกัดได้ 5 ลูก จากนั้นยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ “สตอร์ม ชาโดว์” ถล่มแคว้นคูร์สค์แต่ถูกรัสเซียสกัดได้เช่นกัน ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียจะตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยกลางชนิดใหม่ที่ชื่อว่า “โอเรชนิก” โจมตีแคว้นดนิโปรของยูเครน ปูตินยังเตือนด้วยว่าหากยูเครนยังเดินหน้าใช้ขีปนาวุธของชาติตะวันตกโจมตีรัสเซียอีก รัสเซียก็จะตอบโต้อีก พร้อมสั่งเร่งผลิต “โอเรชนิก” ครั้งใหญ่เพื่อเตรียมเอาคืน