“ทนายอาคม” จ่อวางโฉนดบ้าน ยื่นขอประกัน “เดือน” อึ้ง “ตั้ม” ไม่ยอม ถามกลับแล้วผมจะเอาหลักทรัพย์อะไรประกัน

ทนายอาคม พยายามถามเดือนว่า เดือน บ้านหลังราคาละ 40-50 ล้าน จะไม่สงสัยอะไรเลยเหรอ ว่าตั้มเอาเงินมาจากไหนมาซื้อ เดือนบอกว่าก็ถามแล้ว ตั้มบอกว่าเป็นเงินของพี่อ้อยที่ให้มา เลยคิดว่าเค้าให้มาจริงๆ ทนายอาคม บอกด้วยว่า ตอนเจอหน้าเดือนครั้งแรก เดือนร้องไห้ พูดในทำนองว่า ทำไมพี่อ้อยทำกับเค้าแบบนี้ ทั้งที่รักกันและสนิทกันมาก ส่วนตัวเชื่อว่าเดือนไม่ได้เสแสร้ง แล้วก็ได้อธิบายไปว่า ที่เดือนโดนแจ้งข้อกล่าวหา เพราะมีชื่อรับโอนบ้าน ก็บอกว่าให้อดทน ปรับตัวให้อยู่ข้างในให้ได้

ส่วนกรณีที่ฝั่งพี่อ้อยเปิดประเด็นพินัยกรรม และแผนประทุษกรรม 9 เม.ย.65 มีการทำพินัยกรรมขึ้นมา ทนายอาคม บอกว่า เราก็มาประมวลและวิเคราะห์ว่า มูลเหตุน่าจะเกิดจากตรงนี้ เนื่องจากพี่อ้อยมีทรัพย์สินมาก ทำให้ตั้มอาจเกิดความคิดว่า ลูกความคนนี้มีเงิน จึงพยายามทำตัวใกล้ชิด ให้ความช่วยเหลือ ไปมาหาสู่ คนเราจะรู้ว่าใครมีทรัพย์สินเยอะแค่ไหน ก็รู้ตอนทำพินัยกรรมนี่แหละ เพราะจะมีการแจกแจงทรัพย์สินหมดทุกอย่าง ซึ่งพอพูดมาถึงช่วงนี้ หนุ่ม กรรชัย ถามทนายอาคมว่า พี่คิดว่าตั้มวางแผนประทุษกรรมจริงมั้ย ทนายบอกว่า ภาพรวมบ่งชี้ได้ว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า สายหยุดเป็นทนายตัวหลอก แล้วผมเป็นตัวจริงอยู่เบื้องหลัง ขอยืนยันตรงนี้ว่า ผมไม่รับทำคดีให้ตั้มแน่นอน 100% เพราะก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากันรุนแรง ไม่สามารถทำงานด้วยกันได้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเข้าไปเยี่ยมตั้มในเรือนจำ ตั้มถามคำแรกเลยว่า “ผมจะรอดมั้ย” ผมบอกว่าคืนเค้าเถอะ เค้าตอบว่า ไม่คืน คืนก็หมดตูด

ทนายอาคม ยังเล่าเพิ่มเติม ถึงตอนที่ไปเยี่ยมเดือน โดยบอกเดือนว่า ถ้าเดือนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินของตั้ม ที่ไปเอาของเค้ามาจริงๆ ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจไปเลย ด้วยการนำโฉนดบ้านหลังนี้ไปวางที่ศาล เพื่อการันตีคืนพี่อ้อยเค้าไป แล้วเดี๋ยวทำเรื่องประกันตัวให้เดือน เดือนก็ตกลง จากนั้นผมก็ส่งคนไปแจ้งเรื่องนี้กับทนายตั้มที่เรือนจำ ตอนแรกตั้มก็โอเค พอวันศุกร์เข้าไปเยี่ยมตั้มอีกครั้ง แล้วแจ้งว่าเตรียมจะยื่นประกันตัวเดือนแล้วนะ โดยจะเอาโฉนดบ้านไปวางที่ศาล ตั้มกลับพลิกลิ้นพูดว่า พี่เอาโฉนดไปวางที่ศาล แล้วผมจะเอาหลักทรัพย์ที่ไหนไปประกันตัว ผมก็ตกใจบอก ห๊ะ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของเค้า สามีเค้าไม่ยอม เดือนก็ต้องติดคุกต่อ ประเด็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งด้วยที่ทำให้ผมไม่รับทำคดีให้ตั้ม เพราะมันจะกินทุกอย่าง ไม่ช่วยเมีย คือเมียติดคุกยาว แล้วลูกมึงล่ะ

ทนายอาคมบอกด้วยว่า ตอนนี้สองคนผัวเมียถูกดำเนินคดีทั้งคู่ แต่ประตูทางออกมันมีบานเดียว ถ้าเบียดกันออก ผมว่ามันจะไปทั้งคู่ ผมคิดว่า มึงทำ มึงก็รับไปสิ เอาเมียมึงออกมา แต่ในเมื่อเค้าคิดแบบนี้ ผมก็ถือว่าจบ ยอมรับว่าเสียดาย ทั้งที่เดือนมีโอกาสจะได้ประกันตัวสูง สามารถต่อสู้ได้ในเรื่องเจตนาว่ารู้ หรือไม่รู้ได้ แต่ในเมื่อทนายตั้มหวงบ้านไว้เพื่อตัวเอง คนอื่นก็ทำอะไรไม่ได้ หนุ่ม กรรชัย ถึงขั้นถามย้ำว่า นี่มันเรื่องจริงเหรอพี่ ตอนออกจากสอบสวนกลางขึ้นรถตู้ ยังเห็นเค้ายอมหอมหน้าผากเดือนอยู่เลย ดูรักเมียมาก ทนายอาคมตอบว่า เรื่องจริง