ศาลอาญาฯ รับฝากขัง เมีย-ลูก “หมอบุญ” นำตัวเข้าเรือนจำ

ศาลอาญาฯ รับฝากขัง เมีย-ลูก "หมอบุญ" นำตัวเข้าเรือนจำ

Top news รายงาน วันที่  25 พ.ย.67 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ต.คณัสนันท์ งามสง่า พนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง คุมตัว น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ภรรยาและลูกสาวของ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการหลอกลวงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,43 วรรคแรก พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4,5,16

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยพนักงานอสบสวน ได้บรรยายพฤติการณ์ ตามคำร้อง สรุปว่า นพ.บุญ ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาล ในนามบริษัทธนบุรีแฮลแคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) เป็นผู้ถือหุ้นของTHG เผยแพร่ชื่อเสียงของตนเอง ผ่านสื่อต่างๆ ถึงความสำเร็จทางธุรกิจในฐานะผู้บริหาร ระดับสูงและได้รับการยกย่องว่า เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในวงการ ธุรกิจต่างๆ ทั้งด้านการบริหารกิจการโรงพยาบาล และการพัฒนาโครงการที่มีมูลค่าสูงหลายโครงการต่างๆ ซึ่งไม่มีอยู่จริงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ นักลงทุนทั่วไป ชักชวนให้ผู้เสียหายหลายรายร่วมลงทุน โดยผ่านตัวแทน โบรกเกอร์ในรูปแบบต่างๆ เช่น
1.กู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกัน (CLEAN LOAN) โดยนพ.บุญ ออกเช็คชำระหนี้ และให้บุคคลในครอบครัว หรือผู้ ผู้ใกล้ชิดเป็นผู้อาวัลเช็ค และผู้ค้ำประกัน (กู้แบบไม่มีหลักค้ำประกัน) ให้ผลตอบแทนประมาณ 5 -15 % ต่อปี
2. กู้ยืมเงินโดยอ้างว่าจะน้ำหุ้น บริษัท ธนบุรีแฮลแคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) THG มามอบให้ผู้ให้กู้ (โอนหุ้นให้ผู้ให้กู้) ให้ผลตอบแทนประมาณ 7. – 12 % ต่อปี
3. กู้ยืมเงินโดยอ้างว่า จะนำหุ้น หรือเช็คมาค้ำประกัน (จำนำหุ้น) ให้ผลตอบแทนประมาณ 7.0 – 12 % ต่อปี
4. กู้ยืมเงินโดยมีบุคคล หรือนิติบุคคลมาค้ำประกัน ให้ผลตอบแทนประมาณ 8.5 – 15 % ต่อปี
5.กู้ยืมเงินโดยนำใบหุ้นสามัญของ THG มาค้ำประกัน มอบให้ผู้ให้กู้ถือครองไว้ ให้ผลตอบแทนประมาณ .0 – 12 % ต่อปี
6.ร่วมลงทุนหุ้น IPO (หุ้นที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์) โดยอ้างว่า จะมอบหุ้นของบริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด ให้ผู้ให้กู้ให้ผลตอบแทนประมาณ 5.0 -8.0 % ต่อปี สำหรับแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (CLEAN LOAN)

โดยการเชิญชวนจะมีบุคคลในครอบครัวของนพ.บุญ เป็นผู้ทำสัญญาค้ำประกัน และลงลายมือชื่อสลักหลังเช็ค (อาวัล) เช่น น.ส.จารุวรรณ ภรรยานพ.บุญ นางณวรา อดีตลูกสะใภ้ของนพ.บุญ เป็นผู้ค้ำประกัน แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า รูปแบบที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สัญญากู้ยืมในแต่ละราย จะแตกต่างกัน มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ถึง 1 ปี ส่วนใหญ่มีกำหนด 6 เดือน โดยตัวแทน หรือผู้ชักชวน จะได้ค่าตอบแทนประมาณ ร้อยละ 2 จากยอดกู้ ต่อการทำสัญญาหนึ่งครั้ง

จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหา ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน โดย.นพ.บุญ เป็นตัวการในการระดมทุน ผู้รับมอบเงินผู้ลงลายมือชื่อเป็น “ผู้กู้” ในสัญญากู้ยืม ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ค ทุกฉบับ และเป็นผู้รับเงินโดยตรงจากผู้เสียหาย เข้าบัญชีโดยตรงและเป็นผู้ติดต่อชักชวนทำสัญญาโดยตรงกับผู้เสียหาย น.ส.จารุวรรณ เป็นภรรยาโดยชอบ ด้วยกฎหมายของหมอบุญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ส่วน น.ส.นลิน เป็นลูกสาวผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ซึ่งเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,43วรรคแรก พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4,5,16 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยพนักงานสอบสวนฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 จะครบกำหนดแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้ง 2 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ต้องหาที่ 1-2 ระหว่างการสอบสวน กำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2567 หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นวงกว้าง ความเสียหายมีมูลค่าจำนวนมาก เกรงว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 จะหลบหนี และยากต่อการติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง รวมถึงไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับมีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยมีตัวแทนผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเช่นกัน

ภายหลังศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังครั้งที่ 1 บุตรสาวของหมอบุญ (น.ส.นลิน วนาสิน) ผู้ต้องหาที่ 1 และภรรยาของหมอบุญ (น.ส.จารุวรรณ วนาสิน) ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 67 นี้ ญาติของผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท

โดยศาลอาญาพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า เนื่องจากคำร้องขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวมีเอกสารประกอบคำร้องที่ศาลต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก จึงให้ไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาทั้งสอง ในวันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน 67 เวลา 10.00 น. ดังนั้นในชั้นนี้ ให้หมายขังผู้ต้องหาทั้งสองไว้ก่อน โดยให้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาศาลเพื่อไต่สวนในวันที่ 28 พฤศจิกายน 67

เมื่อศาลมีคำสั่งให้ออกหมายขังผู้ต้องหาทั้งสองไว้ก่อน ดังนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปยังทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น